ข้อมูลเพื่อผู้บริโภค

สัปดาห์ปิดทีวี

21-27 เมษายนนี้ เป็นสัปดาห์ปิดทีวี ต้นตำรับความคิดคือองค์กรเอกชนไม่หวังผลกำไรชื่อ TV-Free America ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1994 เพื่อรณรงค์ให้ชาวอเมริกันลดการดูทีวีลงบ้าง สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อร่างกาย จิตใจ และทำให้สายสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและชุมชนเข้มแข็งขึ้น

เมื่อบอกว่าต้องปิดทีวีเป็นสัปดาห์ หลายคนก็คงตั้งคำถามว่า ปิดวันเดียวไม่ได้หรือ ทาง TV-Free America จึงเตรียมเหตุผลอันกระจ่างใจว่า
การปิดทีวีเต็ม 7 วันจะช่วยให้เรารู้ว่าการใช้ชีวิตโดยปราศจากทีวีนั้นไม่ได้เป็นเรื่องทุกข์ ทรมาน และจะเป็นเรื่องสนุกด้วยซ้ำ การ “อด” ทีวีหลายๆ วันจะช่วยให้มีเวลามากพอที่จะพัฒนานิสัยใหม่ๆได้ ขณะที่การปิดเพียงวันเดียวจะให้ผลน้อยเกินไป จนบางครั้งไม่ได้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากวิถีเดิมเลย ซึ่งนั้นหมายถึงจะไม่ได้ตระหนักรู้สิ่งใหม่ด้วย

เป้าหมายของการรณรงค์ให้ปิดทีวีนั้น เขาบอกไม่ได้เป็นการปิดเพื่อตัดสินคุณภาพของรายการทีวี แต่แค่ทำให้เรารู้จักเลือกให้เป็น และมุ่งไปที่การสร้างสรรค์ ค้นพบ ร่วมมือ และลงมือทำ

การกดปุ่มทีวี ไม่ได้ติดทีวี แต่เป็นอะไรไม่รู้ขอให้ได้กด ๆ รีโมทไว้ก่อน แล้วก็บ่นว่าไม่เห็นจะมีอะไรดูเลย จากนั้นทีวีก็กลายมาดูเราแทน เพราะคนกดรีโมทนอนอ่านหนังสือ และหลับไปพร้อมหนังสือเสมอ พักหลังเริ่มตระหนักถึงปัญหาพลังงาน ถ้าไม่มีอะไรดูก็ปิดทีวีไปเลย

ปัญหาหนึ่งของคนที่ติดทีวีคือ ไม่รู้จะทำอะไร ยิ่งถ้าอยู่ในห้องแคบๆ จำพวกหอพัก อพาร์ตเมนท์แล้ว เลิกงานกลับเข้าห้องก็เจอทีวีนี่แหละที่เป็นเหมือนคนในครอบครัว ตอนเช้าตื่นมาก็ขอดูหน้าพี่สรยุทธ์ ฟังแกเล่าข่าวหน่อย กลับมาตอนค่ำก็ขออัพเดทข่าวบันเทิง ตั้งหน้าตั้งตารอนารินกับคาวีปะทะคารม เพื่อพรุ่งนี้จะได้ไปเมาธ์กับเพื่อนได้ ทำแบบนี้บ่อย ๆ เลยกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน

เวลามีการรณรงค์ให้ปิดทีวีตั้งหนึ่งสัปดาห์ จึงรู้สึกแปลกๆ ปฏิเสธไว้ก่อนว่าทำไม่ได้แน่ แต่พอคิดย้อนไปหลายต่อหลายครั้งในชีวิตที่ไม่ได้ดูทีวีหลายวันติดต่อกัน บางครั้งมากกว่าสัปดาห์ อาทิ ตอนไปออกค่าย ไปปฏิบัติธรรม ตอนเดินทาง อดดูทีวีก็ไม่ได้รู้สึกหิวเหมือนอดข้าวนี่ แถมยังรู้สึกดีด้วยที่มีเวลาทำอะไรตั้งเยอะแยะ

ถ้าคิดว่า 7 วัน คือช่วงเวลาของการทดลองทำอะไรแปลกใหม่ในชีวิต ฉันว่ามันก็น่าสนุก วางแผนว่าเราอยากทำอะไรบ้าง ในช่วงเวลาที่เคยติดอยู่หน้าจอทีวี และถ้ายังคิดไม่ออก ขอนำเสนอตัวอย่างดังต่อไปนี้
ต่อจิ๊กซอร์กับเพื่อนหรือคนในครอบครัว , เขียนจดหมาย โปสการ์ดถึงเพื่อนหรือคนรู้จัก ,เขียนไดอารี่หรือทำสมุดบันทึกการเดินทาง ,ไปพิพิธภัณฑ์ ตอนนี้น่าไปมากๆ คือมิวเซียมสยาม ,ไปสวนสาธารณะออกกำลังกาย ,เก็บเสื้อผ้าในตู้ ตัวไหนไม่ใช้แล้วก็เอาไปบริจาค , ทำกับข้าวแล้วเอาไปแจกเพื่อนบ้าน , เรียนภาษาใหม่ๆ ที่อยากเรียนมานานแล้ว , อ่านหนังสือให้เด็กตาบอดฟัง จะไปเองที่โรงเรียนหรืออัดใส่เอ็มพี 3 ก็ได้ ฯลฯ


ลิสท์รายการแล้ว มีอะไรอีกเยอะเลยเนอะที่เราอยากทำ
“ปิดทีวี เปิดชีวิต “
ลองไปทำดูนะคะ

ใครสนใจอยากรู้เรื่องสัปดาห์รณรงค์ปิดทีวีต่อ เข้าไปดูและไปร่วมลงชื่อได้ที่ www.wechange555.com

{mxc}

พิมพ์ อีเมล

12314 views
ดิฉันได้อ่านบทความคอลัมน์ ชีวิตที่เลือกได้ เรื่อง กฟผ โดยคุณชัยอนันต์ สมุทวณิช ในนสพ. ผู้จัดการ เมื่...

Read more

27456 views
แม้ว่าในฉลากยา จะระบุให้ผู้ใช้ยาได้ทราบถึงวิธีใช้ยาและความถี่ของการใช้แล้วก็ตาม ...

Read more

11336 views
ถกกันอีกรอบกับประเด็น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เอกชนเตรียมรวมตัวกันในนาม 9 สมาคมฯ ขอรัฐแก้กฎหมาย...

Read more

15110 views
 ปัจจุบันนี้อาหารสำเร็จรูปเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคมากขึ้น ฉลากโภชนาการเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ไ...

Read more

รู้ไว้ใช้สิทธิ์

IMAGE มหากาพย์ซิมฟรี แถมหนี้ไม่อั้น
“ได้รับแจกซิมฟรี แต่ไม่ได้เปิดใช้บริการ...
IMAGE อันตรายจากการหางานตามใบปลิว
เดี๋ยวนี้เวลาไปไหนมาไหน...
IMAGE สิทธิของผู้โดยสาร
ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนสิ่ง ที่ตามมาก็คือ...
IMAGE กฎหมายน่ารู้ผู้โดยสาร
พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ