ปตท.ติงไทยมีภาระเพิ่มหลังรัฐตรึงราคาแอลพีจีไร้กำหนดเวลา
บมจ.ปตท.ยอมรับภาระกรณีรัฐบาลชะลอการปรับขึ้นราคาแอลพีจี/เอ็นจีวี ไม่มีกำหนด แต่ติงโครงสร้างการใช้พลังงาน จะปรับเปลี่ยนไปสู่แอลพีจีเพิ่มขึ้นและจะสร้างภาระแก่ประเทศทั้งแง่การนำ เข้าแอลพีจีสูงขึ้น แต่โรงกลั่นน้ำมันจะต้องส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น
นาย ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ปตท. กล่าวว่า การชะลอการปรับราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เอ็นจีวีอย่างไม่มีกำหนดนั้นเข้าใจถึงจุดประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้ ประชาชนได้รับมาตรการช่วยเหลือทุกภาคส่วน ซึ่งในขณะนี้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว โดย ปตท.พร้อมปฏิบัติตาม แต่หากไม่มีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนแล้ว อนาคตปริมาณการนำเข้าแอลพีจีจะต้องเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าปี 2552 ต้องนำเข้าประมาณ 5 แสน-1 ล้านตันจากที่ปี 2551 นำเข้า 4 แสนตัน มูลค่าประมาณเกือบ 9 พันล้านบาทแล้ว โดยที่ผ่านมา คณะกรรมการ ปตท.ได้กำหนดกรอบด้านการเงิน เพื่อนำเข้าแอลพีจีประมาณ 10,000 ล้านบาท ดังนั้นหากภาระการนำเข้ามาก่อนสูงกว่ามูลค่าที่กำหนดก็คงจะต้องหารือกันใน คณะกรรมการอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร โดยเบื้องต้นแนวทางที่ดีที่สุด คือ ภาครัฐควรเร่งนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมารับภาระนำเข้าแทน ปตท.เพื่อไม่ให้เกิดภาระมากเกินไป
“หากปีนี้ส่วนต่างราคาแอลพีจีในและ ต่างประเทศ อยู่ประมาณ 100 ดอลลาร์/ตัน ก็คาดว่า ภาระนำเข้าจะอยู่ประมาณ 2,000- 3,000 ล้านบาท แต่สิ่งที่น่ากังวลคือหากความนิยมใช้แอลพีจีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ภาระของประเทศต้องเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ต้องนำเข้าแอลพีจีเพิ่มสูงขึ้นตลอดใน ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันต้องส่งออกน้ำมัน ภาระค่าขนส่งก็จะเพิ่มเป็น 2 เด้ง” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในส่วนของเอ็นจีวีที่มีภาระเพิ่มขึ้นจากการที่ไม่ได้ปรับราคานั้น ซึ่งมีประมาณ 4,000 ล้านบาท/ปี ในส่วนนี้จะรวมอยู่ในผลประกอบการสุดท้ายภาครัฐที่ถือหุ้นใน ปตท.ร้อยละ 67 ก็จะได้รายได้จาก ปตท.ลดน้อยลงไปด้วยและยังกระทบต่อการขยายงานการลงทุนในอนาคตของผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องกับเอ็นจีวีทั้งหมด ซึ่งเมื่อประชาชนมีภาระ ภาครัฐดูแลประชาชนก็มีภาระ ในขณะที่ ปตท.มีภาระการลงทุนในอนาคตก็ควรจะพิจารณาให้รอบคอบว่าจะสร้างความสมดุลเหล่า นี้อย่างไร. -สำนักข่าวไทย
- อ.ส.ม.ท. 17-01-52
3 เครือข่ายใช้ LPG ยื่นหนังสือค้าน กพช.ขึ้นราคาก๊าซ 2 บาท
3 เครือข่ายใช้ก๊าซ LPG ยื่นหนังสือ “มาร์ค” คัดค้าน กพช.เตรียมขึ้นราคาก๊าซภาคขนส่ง 2 บาท/กก.เพราะเคยเป็นนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ พร้อมเรียกร้องรัฐบาล สั่งห้ามข้าราชการกระทรวงพลังงาน นั่งเป็นคณะกรรมการ (บอร์ด) หรือเป็นที่ปรึกษาด้านพลังงาน
มีรายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ เครือยข่ายผู้ใช้รถยนต์ติดตั้งก๊าซแอลพีจี (LPG) แห่งประเทศไทย ชมรมผู้ประกอบการก๊าซ LPG และชมรมแท็กซี่ LPG ประมาณ 30 คน นำโดย นายรุ่งชัย จันทสิงห์ และ นายสามารถ ทรัพย์พจน์ พร้อมรถแท็กซี่และรถยนต์ส่วนบุคคลประมาณ 20 คัน เดินทางมายังบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้ายื่นหนังสือคันค้านการขึ้นราคาก๊าซ LPG ต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยมี นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นตัวแทนรับหนังสือ
แกนนำระบุว่า การเดินทางมาชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือในวันนี้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณายุติการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี โดยอ้างว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.เคยหาเสียงไว้สมัยเป็นพรรคฝ่ายค้าน ตามนโยบาย 99 วัน จะตรึงราคาก๊าซแอลพีจีไว้ หากมีการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีจริง จะกระทบทั้งต่อผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้ด้วย
แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวว่า ตัวแทนบางส่วนจะรอฟังมติของคณะกรรมการกำหนดนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งมีข่าวว่าจะปรับขึ้นกิโลกรัมละ 2 บาท หากไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้อง ทางกลุ่มจะฟ้องร้องกับศาลปกครองต่อไป เพราะถือว่ารัฐบาลไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ออกกฎหมายห้ามไม่ให้ข้าราชการกระทรวงพลังงาน นั่งเป็นคณะกรรมการ (บอร์ด) หรือเป็นที่ปรึกษาด้านพลังงานรวมทั้งให้กำหนดนโยบายพลังงานทางเลือก และให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยข้อเท็จจริงและข้อมูลที่แท้จริงของโครงสร้างการผลิต จำหน่าย และโครงสร้างราคาของพลังงานทางเลือก LPG
ผู้จัดการออนไลน์ 16-01-52
ชะลอขึ้นราคา “แอลพีจี-เอ็นจีวี” ไม่มีกำหนด
ที่ประชุม กพช.มีมติ ให้ชะลอขึ้นราคาก๊าซ “แอลพีจี-เอ็นจีวี” ไม่มีกำหนด เพราะเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย และกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน
“รสนา” ค้านปรับขึ้นราคา
15 ม.ค.ที่รัฐสภา นางสาวรสนา โตสิตระกูล ประธานคณะอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาล ในคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา แถลงข่าวกรณีรัฐบาลจะปรับขึ้นราคาก๊าซว่า รัฐบาลไม่ควรปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีหรือลอยตัวค่าก๊าซตามราคาตลาดโลก