รัฐบาลเดินหน้า ประกาศพลังงานทดแทนเป็นวาระแห่งชาติ 16 ม.ค.นี้ พร้อมของบกองทุนน้ำมัน 280 ล้านบาท ช่วยลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ลง 3 % ดันอี 85 ให้เกิด และทำส่วนต่างราคาน้ำมันให้ต่ำ 30 % เตรียมปลดล็อกสูตรราคาไบโอดีเซลใหม่ แก้ปัญหาผู้ผลิตไปไม่รอด ส่วนบางจากเสือปืนไว ลดราคาน้ำมันอี 85 ลง 4 บาทต่อลิตรมีผล14 ม.ค.เป็นต้นไป
จากผลกระทบราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่านโยบายการส่งเสริมพลังงานทดแทนของรัฐบาลจะไม่สามารถ เดินหน้าต่อไปได้ เพราะประชาชนจะหันไปใช้น้ำมันแทน โดยเฉพาะการส่งเสริมใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 85 ซึ่งขณะนี้มีราคาสูงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 10 และอี 20 รวมถึงราคาไบโอดีเซล บี 100 ที่เป็นวัตถุดิบใช้ทำไบโอดีเซล ก็มีราคาสูงกว่าราคาน้ำมันดีเซล ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตบี 100 ถึงขาดทุน และอาจจะหยุดดำเนินการได้นั้น
++++ชงขึ้นวาระแห่งชาติ
นายพานิช พงศ์พิโรดม อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ในวันที่ 16 มกราคมนี้ มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะมีการเสนอแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี (ปี 2551-2565) ให้พิจารณาเห็นชอบเป็นวาระแห่งชาติ โดยหนึ่งในแผนนั้นจะเป็นเรื่องส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซล ที่กำหนดเป้าหมายไว้ชัดเจนด้วย
ทั้งนี้น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ยืนยันระหว่างแถลงนโยบายว่าจะส่งเสริมพลังงานทดแทนให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยจะเดินหน้าเต็มตัวส่งเสริมการใช้เอทานอลและไบโอดีเซล มีเป้าหมายการใช้เอทานอลให้ได้ถึง 1.4 ล้านลิตรต่อวันภายในปีนี้ ส่วนการส่งเสริมอี 85 นั้น จะสนับสนุนให้เปิดไลน์การผลิตรถยนต์อี 85 ในประเทศ รวมทั้งผลักดันให้ผลิตและใช้ไบโอดีเซลบี100 ให้ได้ 1.8 ล้านลิตรต่อวันภายในปีนี้ เช่นกัน
สำหรับการผลักดันใช้แก๊สโซฮอล์อี 85 นั้น ในการประชุมกบง.ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานนั้นวันที่ 15 มกราคมจะเสนอให้ที่ประชุมอนุมัติเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวน 280 ล้านบาท เพื่อมาใช้ชดเชยภาระภาษีสรรพสามิต 3 % ให้กับรถยนต์อี 85 ขนาดไม่เกิน 2000 ซีซี และไม่เกิน 2500 ซีซี ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ จากเดิมที่จะต้องเสียภาษีสรรพสามิต 25 % จำนวนไม่เกิน 2,000 คันภายในปี 2552 และชดเชยให้กับรถยนต์อี 85 ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศภายในปี 2553 เพื่อให้ราคารถยนต์อี 85 ลดลงมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับรถยนต์อี 20 ทำให้เกิดแรงจูงใจนำเข้าและผลิตรถยนต์อี 85 ในประเทศได้
++++วอลโว่ผลิตรถอี85ตามเป้า
นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดแรงจูงใจด้านราคาน้ำมันอี 85 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ราคาน้ำมันอี 85 มีราคาต่ำกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 30 % แต่ปัจจุบันอี 85 มีราคาอยู่ที่ 18.29 บาทต่อลิตร ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 16.09 บาทต่อลิตร ดังนั้น ในการประชุมกบง.ครั้งนี้ คาดว่าจะมีการเสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบนำเงินจากกองทุนน้ำมันมาช่วยอุดหนุน ส่วนต่างราคา ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันอี 85 ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 91 ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้รถยนต์อี 85 มากขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ได้เชิญบริษัทรถยนต์มาทำความเข้าใจกับขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินชดเชยภาษีสรรพ สามิต 3 % ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร หลังจากมีผลบังคับใช้แล้ว โดยค่ายรถยนต์วอลโว่ ยืนยันที่จะผลิตรถยนต์อี 85 ให้ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ 150 คันในปีนี้ ซึ่งได้ส่งมอบรถยนต์อี 85 ให้กลุ่มน้ำตาลมิตรผลไปแล้วจำนวน 21 คัน และอยู่ระหว่างรอส่งมอบอีก 20 คัน ขณะที่กลุ่มสมาคมผู้ผลิตเอทานอลได้สั่งออร์เดอร์ผลิตไปอีกจำนวน 20 คัน ส่วนค่ายอื่นๆ อยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะผลิตออกมาจำหน่ายหรือไม่
นายพานิช กล่าวอีกว่า การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือของคณะกรรมการกำหนดราคา ที่จะให้ปลดล็อกสูตรการคำนวณราคาไบโอดีเซลที่เคยกำหนดไว้ว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ)ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตจะต้องไม่สูงกว่า ราคาของมาเลเซียบวก 3 บาทต่อกิโลกรัม ให้เป็นราคาที่สะท้อนตามต้นทุนที่เป็นจริงแทน
++++บี้ใช้อี85-บีบลดใช้เบนซิน91
อย่างไรก็ตามเนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาในตลาด โลกอยู่ที่ 22.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่มาเลเซียอยู่ที่ 17.50 บาทต่อกิโลกรัม หากยังกำหนดตามสูตรคำนวณเดิม ก็จะทำให้ผู้ผลิตประสบปัญหาขาดทุน แต่หากปลดล็อกสูตรนี้ได้จะช่วยให้ราคาสะท้อนตามต้นทุนซีพีโอในประเทศและช่วย ให้ผู้ผลิต ผลิตบี 100 ออกจำหน่ายให้มากขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตถึง 4.4 ล้านลิตรต่อวัน จากจำนวนผู้ผลิต 12 ราย แต่ขณะนี้ผลิตได้กว่า 1.55 ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น
ขณะเดียวกันแม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงมาก็ตาม แต่การใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซลยังมียอดการใช้ที่สูง จะเห็นได้จากยอดการใช้ไบโอดีเซลในปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.23 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อเทียบกับเฉลี่ยของปี 2550 อยู่ที่ประมาณ 170,000 ลิตรต่อวันเท่านั้น ส่วนการใช้เอทานอลในปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 ล้านลิตรต่อวัน เทียบกับปี 2550 เฉลี่ยอยู่ที่ 600,000 ลิตรต่อวัน
ส่วนจะกระตุ้นยอดใช้ให้มากขึ้นอย่างไรนั้น ในส่วนของไบโอดีเซล คงจะต้องขยายตลาดต่อไป โดยจะเห็นว่าเวลานี้สถานีบริการน้ำมันดีเซลไม่มีบี 2 จำหน่าย แต่จะจำหน่ายบี 5 แทน ขณะที่แก๊สโซฮอล์ ต้องกระตุ้นการใช้อี 85 และจะพยายามผลักดันให้ลดการใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน 91 ลงมา เพื่อขยายตลาดแก๊สโซฮอล์ 91 ให้มากขึ้น
++++จี้ปลดล็อกราคาไบโอดีเซล
นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานชมรมผู้ผลิตไบโอดีเซล เชิงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 มกราคมนี้ ชมรมจะเดินทางเข้าหารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อให้ปลดล็อกสูตรการคำนวณราคาไบโอดีเซล เนื่องจากปัจจุบันภาครัฐได้กำหนดเพดานราคาน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ)ตามราคาของ มาเลเซียบวก 3 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อต้องการแทรกแซงราคาผลปาล์มดิบตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ผลิตต้องซื้อซีพีโอในราคาที่สูงถึง 23-24 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งที่ราคาตลาดโลกอยู่เพียงกว่า 18 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ราคาบี 100 ที่นำมาผลิตไบโอดีเซลบี และบี 5 อยู่ที่ 23.79 บาทต่อลิตร
จึงทำให้ผู้ผลิตประสบปัญหาขาดทุน ทั้งที่ราคาที่แท้จริงควรจะอยู่ที่ประมาณ 25-26 บาทต่อลิตร
โดยปัญหานี้ถ้าคำนวณจากผลกระทบตั้งแต่ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 ถึงปัจจุบัน กลุ่มผู้ผลิตไบโอดีเซลได้รับความเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ที่สูญเสียส่วนต่างของราคาขายไป ซึ่งหากภาครัฐแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ จะช่วยให้ราคาบี 100 สะท้อนตามต้นทุนซีพีโอในประเทศได้
ที่สำคัญจะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถอยู่รอดได้ เนื่องจากปัจจุบันยอดการจำหน่ายบี 100 ลดลง เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลลดลง อีกทั้ง บริษัทน้ำมันก็ผลิตบี 100 ขึ้นมาใช้เอง จึงทำให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ ต้องลดกำลังการผลิตลง และปัญหานี้ ได้ส่งผลกระทบจนทำให้ผู้ผลิตบางรายต้องหยุดการผลิตบี 100 และหันไปผลิตน้ำมันพืชแทนแล้ว
แหล่งข่าวจากสมาชิกชมรมผู้ผลิตไบโอดีเซลเชิงพาณิชย์ รายหนึ่งให้ความเห็นว่า รัฐบาลควรจะใช้ราคาวัตถุดิบในประเทศมาใช้อ้างอิงราคาประกาศของไบโอดีเซล โดยไม่ไปอิงกับราคาตลาดโลก ซึ่งจะต้องแก้กฎหมาย เพื่อปลดล็อกกลไกนี้ นอกจากนี้รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นการชดเชย ความเสียหายที่ทำให้กลุ่มไบโอดีเซลที่ได้รับก่อนหน้านี้โดยเฉพาะส่วนต่าง จากราคาขายไบโอดีเซลด้วย
++++บางจากลดราคาน้ำมันอี85
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)(บมจ.) กล่าวว่า ในวันที่ 15 มกราคมนี้ บมจ.บางจากได้ปรับราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 ลงมา 4 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ 14.29 บาทต่อลิตร ซึ่งจะมีผลวันที่ 14 มกราคม 2552 เนื่องจากราคาเอทานอลได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับ 14 บาทต่อลิตร จากเดิมอยู่ที่ 17.18 บาทต่อลิตร ประกอบกับเวลานี้มีรถยนต์อี 85 ได้ออกมาวิ่งแล้วของกลุ่มน้ำตาลมิตรผลในจำนวนประมาณ 40 คัน เพื่อให้สะท้อนตามต้นทุนที่เป็นจริง และรองรับรถยนต์อี 85 จึงได้ตัดสินใจลดราคาลงมา แม้ว่าจะต้องแบกรับภาระบ้างส่วนอยู่ก็ตาม
ส่วนการเปิดสถานีน้ำมันอี 85 เพิ่มขึ้นหรือไม่จากปัจจุบันมีอยู่ 1 แห่งนั้น คงต้องรอดูปริมาณรถยนต์อี 85 ว่าจะมีมากขึ้นเพียงใด หากจำนวนรถยนต์ไม่เพิ่มขึ้นการเปิดปั๊มรองรับไว้จะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้ม ทุน จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2392 15 ม.ค. - 17 ม.ค. 2552