เครือข่ายแบนสารพิษ 686 องค์กร ยืนยัน ต้องแบน ‘3 สารเคมีอันตราย’ ตามมติเดิม

021262 News cover 3

เครือข่ายแบนสารพิษ 686 องค์กร และเครือข่ายผู้บริโภค ยืนยัน ต้องแบน ‘3 สารเคมีอันตราย’ ตามมติเดิม ระบุจะดำเนินการฟ้อง ‘สุริยะ’ ในฐานะประธาน คกก.วัตถุอันตราย

          ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 โดยอ้างว่าที่ประชุมมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้เลื่อนการแบนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอสออกไปเป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2562 และยกเลิกการแบนไกลโฟเซตเป็นจำกัดการใช้แทน
          วันนี้ (2 ธันวาคม 2562) เวลา 11.00 - 12.00 น. ที่สวนชีววิถี ไทรม้า จังหวัดนนทบุรี เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษร้ายแรง 686 องค์กรและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค จัดแถลงข่าว ‘เดินหนัาขับเคลื่อนการแบน 3 สารพิษ’ หลังมติ ‘สันนิษฐาน’ ล้มแบนไกลโฟเสต เลื่อนแบนพาราควอต คลอร์ไพริฟอส021262 News photo

          นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) ได้กล่าวถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการล้มมติเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ซึ่งมาจากข้ออ้างว่า ไกลโฟเซตไม่เป็นอันตรายเพราะยังมีการใช้อยู่ในหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐอเมริกา จากการรับฟังความคิดเห็นมีผู้คัดค้านจำนวนมาก ยังไม่สามารถหาวิธีการทดแทนได้ ต่างประเทศคัดค้าน ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ และขัดต่อความตกลงใน WTO เป็นต้น

          ดังนั้น เครือข่ายฯ จึงเห็นว่ามติที่ยกเลิกการแบนไกลโฟเซต เป็นมติที่ไม่ชอบด้วย ทั้งนี้เนื่องจาก ประการแรก ข้ออ้างการทบทวนมติเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2652 ไม่มีเหตุผลสนับสนุนอย่างเพียงพอ เพราะ 1) การอ้างว่าไกลโฟเซตไม่เป็นอันตรายเพราะสหรัฐและหลายประเทศยังอนุญาตให้ใช้อยู่ ขัดแย้งกับข้อวินิจฉัยของ IARC องค์การอนามัยโลก และคำตัดสินของศาลสหรัฐที่ให้บริษัทไบเออร์ต้องจ่ายค่าเสียหายและค่าปรับจำนวนมหาศาลแก่ผู้ใช้และแก่รัฐ โดยจำนวนคดีที่มีการฟ้องศาลแล้วมีจำนวนมากกว่า 40,000 คดี

          2) การอ้างว่าขัดต่อความตกลงในองค์กรการค้าโลกฟังไม่ขึ้น เนื่องจากในความตกลงสุขอนามัยและอนามัยพืช (SPS) มีบทยกเว้นใน Annex B – ข้อ 6 อนุญาตให้ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า 60 วันในกรณีที่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่กระทบต่อสุขภาพ

          3) การอ้างว่ามีผู้คัดค้านจำนวนมากจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นออนไลน์เป็นไปโดยมิชอบ เนื่องจากกรมวิชาการเกษตรได้นำรายชื่อผู้คัดค้านจากกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทสารพิษกำจัดศัตรูพืช 17,527 รายชื่อมารวมด้วย

          4) การกล่าวอ้างเรื่องผลกระทบการนำเข้าสินค้าเกษตรโดยเฉพาะถั่วเหลืองและข้าวสาลีซึ่งประเทศไทยไม่สามารถผลิตได้หรือผลิตได้ไม่เพียงพอ จนส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจ ไม่เป็นความจริง เนื่องจากสามารถปรับค่าสารตกค้างการนำเข้า (Import Tolerance) ให้มีค่าต่ำสุดที่ไม่กระทบต่อการนำเข้าได้

          และ 5) กรณีข้ออ้างว่าไม่มีระยะเวลาเพียงพอและไม่มีวิธีการทดแทนนั้น กระทรวงเกษตรฯ มีระยะเวลากว่า 2 ปี 7 เดือน สำหรับดำเนินการแต่กลับไม่เสนอทางเลือกที่เป็นรูปธรรม ทั้งๆ ที่ในทางปฏิบัติและการวิจัยของกรมวิชาการเกษตร พบว่า ในพืชหลักหลายกลุ่ม วิธีการควบคุมวัชพืชโดยไม่ใช้สารเคมีเป็นแนวทางหลักของเกษตรส่วนใหญ่อยู่แล้ว
          ส่วนประการที่สอง กระบวนการลงมติเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่อ้างว่ามีความเห็นเป็นเอกฉันท์ เป็นกระบวนการที่มิชอบ เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข แถลงยืนยันมติเดิมให้มีการแบน 3 สาร อีกทั้ง ตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.วัตถุอันตรายกำหนดไว้ว่า “
.. การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด..” โดยที่ผ่านมาการวินิจฉัยในกรณี 3 สารเคมี ซึ่งมีความเห็นแตกต่างกันของคณะกรรมการ ได้ใช้วิธีการลงคะแนนตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมา021262 News photo 2

          สำหรับข้อเสนอในการแบน 3 สารพิษร้ายแรง นั้นมี 5 ข้อ ได้แก่
          1. ยืนยันให้ทุกฝ่ายเคารพมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 โดยกระทรวงอุตสาหกรรมต้องดำเนินการตามขั้นตอนในการออกประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้การแบนพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายโดยเร็ว

          2. เครือข่ายฯ ขอประกาศจะดำเนินการฟ้องศาลปกครอง และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ดำเนินการประชุมเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 โดยมิชอบ

          3. เครือข่ายฯ ได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบการตกค้างของ 3 สารพิษ ในสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการที่ใส่ใจและมีนโยบายคุ้มครองสุขภาพของประชาชน

          4. เครือข่ายฯ จะดำเนินการฟ้องคดีแบบกลุ่มให้กับผู้ที่ได้รับอันตรายจาก 3 สารพิษนี้ ภายในเดือนนี้ โดยความร่วมมือกับทีมทนายความที่ต่อสู้คดีให้กับนายดเวนย์ ลี จอห์นสัน ที่ชนะคดีไกลโฟเซตในสหรัฐอเมริกา

          และ 5. เรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนเกษตรกรในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยดำเนินการตามมติและข้อเสนอของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ 423 ต่อ 0

 

Tags: พาราควอต, วัตถุอันตราย, ไกลโฟเซต, สารเคมีอันตราย, คลอร์ไพริฟอส, ยกเลิกสารเคมีอันตราย, แบน, สารเคมี, สุริยะ

พิมพ์ อีเมล