มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและ กทค. เสียงข้างน้อย เดินหน้าฟ้องศาลปกครองกลาง เหตุ กทค. เสียงข้างมากกลับมติ ไม่บังคับผู้รับใบอนุญาตคิดอัตราค่าบริการตามจริงเป็นวินาทีตามเงื่อนไขประมูลคลื่น
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิฯ และนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เสียงข้างน้อย ร่วมกันยื่นฟ้อง กทค. เสียงข้างมากต่อศาลปกครองกลาง ประกอบด้วย พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รศ.ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ และ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร โดยขอให้ศาลเพิกถอนมติที่ประชุม กทค. ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2560 เรื่องการพิจารณาทบทวนมติ กทค. ครั้งที่ 10/2559 ที่มีการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz จะต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตการให้ใช้คลื่นความถี่ พร้อมทั้งบังคับให้ผู้ถูกฟ้องคดีปฏิบัติตามหน้าที่โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงในหน่วยวินาที
ทั้งนี้ ในคำฟ้องระบุว่า มติ กทค. ครั้งที่ 10/2559 ที่ให้ผู้รับใบอนุญาตคิดค่าบริการเสียงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย เป็นมติที่สอดคล้องกับเงื่อนไขตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz และประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 900 MHz ที่กำหนดชัดเจนว่าจะต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริง แต่ในการประชุม กทค. ครั้งที่ 1/2560 กรรมการเสียงข้างมากซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องได้มีการพิจารณาทบทวนมติ และเปลี่ยนแปลงมติใหม่โดยกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมต้องมีจำนวนรายการส่งเสริมการขายและบริการเสริม (on top) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของทั้งหมดที่คิดค่าบริการตามปริมาณการใช้งานจริงของบริการเสียงเป็นวินาที ส่วนที่เหลือให้คิดเป็นนาที ซึ่งการไม่บังคับให้ผู้รับใบอนุญาตปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ และมติ กทค. ครั้งที่ 10/2559 ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวมถึงสาระสำคัญและกระบวนการพิจารณาทบทวนมติดังกล่าวก็เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน
อนึ่ง จุดเริ่มต้นเรื่องการรณรงค์การคิดค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีเกิดจากมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ร้องเรียนมายังสำนักงาน กสทช. เนื่องจากการปัดเศษการโทรในแต่ละครั้งเป็นนาที ทำให้ผู้ร้องเรียนต้องจ่ายค่าบริการที่เป็นส่วนต่างเพิ่มขึ้นจำนวนมากในแต่ละเดือน ซึ่งต่อมาเมื่อต้นปี 2558 สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ผลักดันให้ประเด็นการคิดค่าบริการเป็นวินาทีเป็นข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปที่สามารถดำเนินการได้โดยเร็ว (Quick Win) ขณะที่ในการจัดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และ 900 MHz กสทช. ก็ได้บรรจุเรื่องดังกล่าวไว้ในเงื่อนไขหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ แต่กระทั่งปัจจุบันยังคงไม่สามารถบังคับให้ผู้รับใบอนุญาตปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้