ผู้บริโภคร้อง รมต.คลัง และ รมต.พลังงาน ให้บังคับ ปตท.แบ่งแยกทรัพย์สินคืนแผ่นดิน ภายใน ๑๕ วัน

วันนี้(27 พย.52)เมื่อเวลา 10.30 น.เครือข่ายผู้บริโภคและเครือข่ายภาคประชาชน กว่า 50  คน ยื่นหนังสือถึงรมต.คลัง และ รมต.พลังงาน ขอให้ขอให้บังคับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แบ่งแยกทรัพย์สินเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินสิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบ การขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิ ของบริษัท ปตท. ภายใน ๑๕ วัน

หลังจากนั้นเวลา 12.30 น.เครือข่ายผู้บริโภคและเครือข่ายภาคประชาชน อันประกอบด้วยเครือข่ายติดตามผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ต. เขาหินซ้อน ฉะเชิงเทรา เครือข่ายอนุรัก์วิถีเกษตรกรรม และกลุ่มพลังงานทางเลือก  จึงเดินทางต่อไปเพื่อยื่นหนังสือต่อ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล   เรื่องขอให้ยุติการดำเนินการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าและนำเงินที่เรียกเก็บมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายส่งคืนให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า มีรายละเอียด 3 ข้อ หลัก ๆ ได้แก่ 1.ให้ กฟผ.ยุติการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯจากค่าเอฟทีโดยทันที 2.ให้นำเงินที่เรียกเก็บเข้ากองทุนฯไปแล้วทั้งหมดส่งคืนให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยเร็ว 3.ให้หามาตรการที่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อการเก็บเงิน สำหรับดำเนินการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าทั้งหมดโดยตรง 



อนึ่งตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.๔๗/๒๕๔๙ คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.๓๕/๒๕๕๐ คดีระหว่างมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ผู้ฟ้องคดีที่ ๑ กับ พวกรวม๕ คน กับ คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ กับ พวกรวม ๔ คน โดยพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ร่วมกันกระทำการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของผู้ฟ้องคดีที่ ๔ ทั้งนี้ ให้เสร็จสิ้นก่อนการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.๒๕๕๐

ต่อมาวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๐ คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาการดำเนินการตามคำวินิจฉัยและคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ ฟ.๔๗/๒๕๔๙ และคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.๓๕/๒๕๕๐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอโดยมีมติมอบหมายให้กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง รับไปดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินและสิทธิตามหลักการดังกล่าว โดยให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ตรวจสอบและรับรองความถูกต้อง ทั้งนี้หากมีข้อโต้แย้งทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับการตีความคำพิพากษาของศาลฯ ในการดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินนั้นให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้พิจารณาเพื่อให้มีข้อยุติต่อไป

โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำร้องรายงานสรุปการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑ สรุปว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้โอนทรัพย์สินเพียงเฉพาะที่ดินเวนคืนมูลค่า ๑.๔๒ ล้านบาท สิทธิการใช้ที่ดินมูลค่า ๑,๑๒๔.๑๑ ล้านบาท และระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่อยู่บนที่ดินเวนคืนและที่ดินรอนสิทธิเพียง ๓ โครงการ (โครงการท่าบางปะกง-วังน้อย โครงการท่อจากชายแดนไทยและพม่า-ราชบุรี และโครงการท่าราชบุรี-วังน้อย) โดยมีมูลค่าระบบท่อจำนวน ๑๕,๐๕๐.๖๙ ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าทรัพย์สินที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ แบ่งแยกกลับไปเป็นของรัฐทั้งสิ้นเพียง ๑๖,๑๗๖.๒๒ ล้านบาท โดยไม่มีการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

ตามรายงานของผู้สอบบัญชีต่อมูลค่าทรัพย์สินที่แบ่งแยกให้กระทรวงการคลัง ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน รายงานว่า ทรัพย์สินที่จะต้องดำเนินการคืนให้กระทรวงการคลัง มีมูลค่าทางบัญชีสุทธิ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๔ จำนวน ๕๒,๓๙๓,๔๙๘,๑๘๐.๓๗ ล้านบาท โดยมีรายการทรัพย์สินดังต่อไปนี้

๑ ที่ดินอาคารและอุปกรณ์
ที่ดิน
๒,๔๘๑,๔๖๗,๖๒๒.๔๖ บาท
อาคาร
๕,๘๕๑,๕๐๑,๑๗๘.๔๕ บาท
เครื่องจักร อุปกรณ์ และทรัพย์สินอื่นๆ
- ระบบท่อส่งก๊าซ
๓๒,๖๑๓,๔๕๔,๔๗๘.๙๔ บาท
- โรงแยกก๊าซฯ คลังน้ำมันและอุปกรณ์อื่น
๖,๑๕๔,๕๓๘,๖๕๒.๗๒ บาท
- ทรัพย์สินอื่น
๓,๒๐๙,๘๕๐,๕๗๑.๘๑ บาท
รวมเครื่องจักร อุปกรณ์ และทรัพย์สินอื่น
๔๑,๙๗๗,๘๔๓,๗๐๓.๔๗ บาท
รวมที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
๕๐,๓๑๐,๘๑๒,๕๐๔.๓๘ บาท
๒. สินทรัพย์ไม่มีตัวตน
สิทธิการเช่า/ใช้
๑,๙๘๖,๕๘๙,๔๐๒.๔๘ บาท
สิทธิในการดำเนินการอื่น
๙๖,๐๙๖,๒๗๓.๕๑ บาท
รวมทรัพย์สินไม่มีตัวตน
๒,๐๘๒,๖๘๕,๖๗๕.๙๙ บาท
รวมทรัพย์สินสุทธิ
๕๒,๓๙๓,๔๙๘,๑๘๐.๓๗ บาท

นอกจากรายงานของผู้สอบบัญชีแล้วจากการตรวจสอบทรัพย์สินโดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (ผู้ฟ้องคดี) และพวก พบว่ายังมีทรัพย์สินอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาเพิ่มเติมหลังการแปลงสภาพการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย รวมมูลค่าทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ต้องแบ่งแยกและคืนทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอีกจำนวนทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า ๒๐๕,๘๙๑ ล้านบาท ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายภาคประชาชนจึงวอนให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจบังคับให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คืนทรัพย์สินส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินให้ครบถ้วนโดยเร็วภายใน ๑๕ วัน

เรื่อง :: ทีมงาน Consumerthai.org
ภาพประกอบ :: สมนึก งามละไม

 








พิมพ์ อีเมล