เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคให้กำลังใจ กทช. เดินหน้า ‘คนเดียวเบอร์เดียว’ (Number Portability) วอนผู้ประกอบการเลิกฟ้อง กทช. Consumerthai – 17 ส.ค.53 เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคกว่า 20 คน สภาผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เข้ามอบดอกไม้เป็นกำลังใจและสนับสนุน กทช. เดินหน้า คนเดียวเบอร์เดียวหรือการคงสิทธิในเลขหมาย (Number Portability) โดยมีนายฐวกร ตัณทสิทธิ์ รองเลขาธิการรักษาการในตำแหน่ง เลขาธิการ กทช. รับมอบช่อดอกไม้และหนังสือให้กำลังใจ พร้อมวอนผู้ประกอบการเลิกฟ้อง กทช.
นายพนัชทร สุนทราภิมุข ตัวแทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค กล่าว สนับสนุนให้กำลังใจ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) ให้เดินหน้า เรื่อง การคงสิทธิในเลขหมาย เพื่อประโยชน์สาธารณชนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ หลังเจอโรคเลื่อนกว่า ๑๑ เดือน จากที่มีประกาศ กทช. ในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๒ ให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถโอนย้ายหมายเลขโทรศัพท์จากโครงข่าย หนึ่งไปยังอีกโครงข่ายหนึ่งได้
“ในการเดินทางเข้าพบ กทช. ในครั้งนี้ ตัวแทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ สภาผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เห็นพ้องและสนับสนุนมติ กทช. ในการเดินหน้าให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือเปิดให้บริการการคงสิทธิในเลข หมายให้ทันภายใน ๑ กันยายนนี้ หลังมีการเลื่อนมาเป็นเวลากว่า ๑๑ เดือน” นายพนัชทร กล่าว
นายฐวกร ตัณทสิทธิ์ รองเลขาธิการรักษาการในตำแหน่ง เลขาธิการ กทช. หลังการรับช่อดอกไม้แล้ว ได้กล่าวถึง มติที่ประชุมบอร์ดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เปิดให้บริการคง สิทธิเลขหมาย (นัมเบอร์พอร์ทอะบิลิตี้) ภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ โดยไม่ขยายระยะเวลาออกไป ตามที่เอกชนร้องขอมา แม้ว่าจะยกเหตุผลความวุ่นวายทางการเมืองช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ในกรุงเทพฯ ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย แต่กทช.เห็นว่าประเด็นนี้ควรให้ศาลเป็นผู้พิจารณา
"หากในวันที่ 1 กันยายนนี้ บริษัทไหน ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ก็จะต้องเสียค่าปรับวันละ 20,000 บาท ซึ่ง เชื่อว่าเอกชนจะฟ้องศาล ดังนั้นจึงขึ้นกับการตัดสินใจของศาลต่อไป" นายฐวกร กล่าว
นายอิสราวุธ ทองคำ ตัวแทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคตะวันตก กล่าว เพิ่มเติมถึงกรณีความล้าช้าที่เกินควรในการให้บริการโอนย้ายหมายเลขโทรศัพท์ ของผู้ประกอบการ ว่า “จากประกาศ กทช. ในเดือนสิงหาฯ ๕๒ ให้ผู้ประกอบการเปิดให้บริการผู้ใช้บริการให้สามารถโอนย้ายหมายเลขโทรศัพท์ จากโครงข่ายหนึ่งไปอีกโครงข่ายหนึ่ง โดยการบังคับใช้ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งผู้ประกอบการได้อ้างถึงความไม่พร้อมของระบบ เครื่องมือ ในการให้บริการภายใน ๓๐ วันดังกล่าว และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานของผู้ใช้บริการได้ จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ กทช. ปัจจุบันเวลาล่วงเลยมาเกือบปีแล้ว ขณะที่ระบบยังไม่สามารถรองรับการโอนย้ายได้หรือโอนย้ายได้ในบางส่วนนั้นไม่ เป็นเหตุเป็นผลในทางปฏิบัติ เพราะในหลายประเทศในทางปฏิบัติยังใช้เวลาน้อยกว่าประเทศไทย....”
ด้านนางสาวจุฑา สังขชาติ ตัวแทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคใต้ กล่าว สนับสนุนให้กำลังใจ กทช. ในการเดินหน้าการคงสิทธิในเลขหมายและขอให้มีการคงสิทธิในหมายเลขโดยไม่มีค่า บริการ เพราะถือว่าการโยนย้ายหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่จากผู้ประกอบการรายหนึ่งไป ยังผู้ประกอบการอีกรายหนึ่งนั้นถือเป็นการนำผลประโยชน์ไปให้ผู้ประกอบ การที่ผู้ใช้บริการโอนย้ายไป พร้อมเรียกร้องให้ผู้ประกอบการไม่ควรฟ้องร้อง กทช. ในการดำเนินการในครั้งนี้ หากเห็นแก่ประโยชน์ส่วนร่วมของประชาชนโดยแท้จริง
“พวกเราตัวแทน องค์กรเครือข่ายผู้บริโภคเห็นว่าการดำเนินการของ กทช. ในครั้งนี้ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนผู้รอใช้บริการดังกล่าว จะเป็นการดีอย่างยิ่งหากมีการให้บริการโอนย้ายโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะคนที่ได้ประโยชน์คือบริษัทที่ได้รับการโอนย้าย มิใช่ประชาชนผู้ใช้บริการได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว และหวังว่าการดำเนิเนการในครั้งนี้ กทช. จะไม่เกรงกลัวคำขู่ฟ้องร้องจากผู้ประกอบการ พวกเราโดยตัวแทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั้งจาก ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้เดินทางมายืนหนังสือเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ กทช. เดินหน้าต่อไป พร้อมขอให้บริษัทเลิกความคิดที่จะฟ้องร้อง กทช. หากเห็นแก่ประโยชน์ส่วนร่วมโดยแท้จริง...” นางสาวจุฑา กล่าวทิ้งท้าย
จดหมายให้กำลังใจ และ สนับสนุน การดำเนินการคงสิทธิเลขหมาย
ฉบับที่ พิเศษ ๐๐๒/๒๕๕๓
๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๓
เรื่อง ให้กำลังใจ และ สนับสนุน การดำเนินการคงสิทธิเลขหมาย
เรียน ท่านประธาน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ตามที่ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้มีประการ เรื่อง หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๒ เป็นผลให้ผู้ประกอบการต้องดำเนินการเปิดให้บริการการคงสิทธิในเลขหมาย (Number Portability) แก่ผู้ใช้บริการภายใน ๓ เดือน ถัดจากวันที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งผู้ประกอบการได้ทำการอุทธรณ์ต่อ กทช. โดยอ้างเหตุว่าไม่สามารถสร้างระบบมารองรับการโอนย้ายเลขหมายได้ทันภายใน ๓ เดือน และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการได้ ทำให้จากเดิมที่ต้องเปิดให้บริการภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๒ ได้ยืดขยายเวลาออกมาอีกกว่า ๖ เดือน
ล่าสุดในที่ประชุม กทช. เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ มีมติให้ผู้ประกอบการเร่งดำเนินการให้บริการการคงสิทธิในเลขหมายภายในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ โดยไม่ขยายระยะเวลาออกไปตามที่ผู้ประกอบการยื่นอุทธรณ์ต่อ กทช. หากผู้ประกอบการรายใดไม่สามารถดำเนินการให้บริการได้ภายในวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๓ นี้จะต้องเสียค่าปรับวันละ ๒๐,๐๐๐ บาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายอาจจะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อคุ้มครองฉุกเฉินต่อไป
จากการดำเนินการของ กทช. ในกาลนี้ เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ สภาผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงร่วมกันยื่นหนังสือเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และสนับสนุน กทช. ให้ดำเนินการการคงสิทธิในเลขหมายให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด และขอให้มีการคงสิทธิในหมายเลขโดยไม่มีค่าบริการ เพราะถือว่าการโยนย้ายหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่จากผู้ประกอบการรายหนึ่งไปยังผู้ประกอบการอีกรายหนึ่งนั้นถือเป็นการนำผลประโยชน์ไปให้ผู้ประกอบการที่ผู้ใช้บริการโอนย้ายไป
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สาธารณชนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ หวังว่า กทช. จะไม่เกรงกลัวต่อคำขู่ใดๆ จากผู้ประกอบการ เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคจึงใคร่ขอแสดงสนับสนุนและเป็นกำลังใจในการดำเนินงานในครั้งนี้
(นายพนัชทร สุนทราภิมุข)
ผู้แทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค
