จากกรณีบริษัท แพล็ททินัม มอเตอร์เซลส์ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ตู้ยี่ห้อโฟตอน จากประเทศจีน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้บริโภค จำนวน 20 คน ซึ่งเป็นผู้ซื้อรถยนต์ตู้โฟตอนฯ จำนวน 19 คน และ นางสาวสวนีย์ ฉ่ำเฉลียว อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคอีก 1 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และแจ้งความเท็จ จากกรณีที่ผู้บริโภคซื้อรถยนต์ตู้มาใช้งานแล้วเกิดปัญหาได้รับความเสียหายและบริษัทฯ ไม่รับผิดชอบต่อความชำรุดบกพร่องของรถจึงนำข้อเท็จจริงมาเปิดเผยกับสาธารณชน และแจ้งร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ซึ่งศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานหักล้างว่า จำเลยแจ้งความเท็จกรณีนำเรื่องไปร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. จึงไม่อาจรับฟ้องได้ว่า ในประเด็นนี้จำเลยได้กระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ส่วนความผิดฐานหมิ่นประมาท เห็นว่าจำเลยได้ซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์ และหนึ่งในจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน โดยกลุ่มจำเลยได้มีการไปออกรายการโทรทัศน์สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง พูดทำนองว่า รถยนต์ที่ซื้อไปจากโจทก์ มีสภาพเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ชำรุด ใช้งานไม่ได้จริง หรือจะต้องซ่อมแซมบ่อยครั้ง และเมื่อจำเลยได้แจ้งไปยังโจทก์ ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์ดังกล่าวเพื่อให้ซ่อมแซม ซึ่งข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่แนบมาพบว่า รถยนต์บางคันมีปัญหาต้องซ่อมแซมตั้งแต่ตอนเป็นป้ายแดงจริง และบางคันมีปัญหา ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งโจทก์ก็ไม่ได้โต้แย้งในข้อเท็จจริงนี้ จำเลยจึงไปร้องเรียนกับหน่วยงานดังกล่าว เมื่อพิเคราะห์แล้วการกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ตามครรลองคลองธรรมไม่ได้ทำให้โจทก์เสื่อมเสีย จึงไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท ศาลชั้นต้นจึงพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 29 มี.ค.59
ต่อมาทางบริษัทฯ ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา โดยวันนี้ (15 พ.ย.60) ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ยืนตามศาลชั้นต้น