10 ต.ค. 60 – ทำเนียบรัฐบาล ผู้เสียหายจากเหตุการณ์ สลายการชุมนุม นปช. เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 นำโดย นายรัชพล ไกรจิรโชติ กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้า เซ็นเตอร์ วัน ช้อปปิ้ง พลาซ่า น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้ประกอบการเจ้าของอาคาร ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน อาคารร้านหนังสือดอกหญ้า และอาคารสำนักงานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อ วันที่ 19 พฤษภาคม2553 อาคารของพวกข้าพเจ้าได้ถูกวางเพลิงเผา จนกระทั่ง อาคารศูนย์การค้าเซ็นเตอร์ วัน และอาคารร้านหนังสือดอกหญ้า เสียหายหมดทั้ง 2 อาคาร ส่วนอาคารมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคซึ่งอยู่ติดกัน ถูกเพลิงไหม้เสียหายบางส่วน
หลังการสลายการชุมนุม สถานการณ์วิกฤต ปัญหาเฉพาะหน้ามีมากมาย รัฐบาลได้ออกมาตรการความช่วยเหลือหลายมาตรการ เป็นมาตรการที่มุ่งให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายที่เป็นร้านค้าย่อยๆ อาทิเช่น เงินช่วยเหลือรายละ 50,000 บาท เงินชดเชยความเสียหายสำหรับร้านค้าและอาคารที่ถูกไฟไหม้ ตารางเมตรละ 10,000 บาท แต่สูงสุดไม่เกิน 50 ตารางเมตร กล่าวคือสูงสุด 500,000 บาท เงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูกิจการ แต่สูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท เป็นต้น
นายรัชพล กล่าวว่า จากมาตรการดังกล่าวนั้นทางกลุ่มฯ ได้เข้าเรียกร้องกับรัฐบาลว่า มาตรการเหล่านั้นไม่สามารถแก้ปัญหาให้กลุ่มประชาชนที่อาคารถูกวางเพลิงได้เลย เพราะได้รับความเสียหายมากกว่านั้น แต่กลับได้รับความช่วยเหลือเทียบเท่ากับผู้ที่มีร้านค้าที่เสียหายเพียงขนาด 50 ตารางเมตรเท่านั้น รัฐบาลตอนนั้นให้เหตุผลว่า มีกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองจึงให้เรียกร้องตามสิทธิการทำประกันภัยที่แต่ละรายมีไปก่อน
“ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาทางกลุ่มฯ ได้ฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมตามกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว แต่ในที่สุดเมื่อไม่นานนี้ ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณายกฟ้องคดีแบบเดียวกันนี้แทบจะทุกคดี อย่างเช่นกรณีของเซ็นเตอร์วัน ดอกหญ้า และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย กรมธรรม์ไม่คุ้มครอง ศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินให้ยกฟ้องทุกราย โดยทางกลุ่มฯ ได้ขออนุญาตฎีกาแต่ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ฎีกาได้คดีจึงถึงที่สุด” นายรัชพลกล่าว
นางสาวสารี กล่าวว่าในเมื่อเหตุดังกล่าวมีข้อสรุปว่าเป็นการก่อการร้าย ในฐานะสุจริตชนที่ประกอบอาชีพเป็นปกติ และไม่มีส่วนร่วมก่อเหตุใดๆเลย แต่กลับได้รับความเสียหายจากความบกพร่องในการแก้ปัญหาของรัฐ มีผู้มาทำลายทรัพย์สินในช่วงการประกาศเคอร์ฟิวถูกห้ามออกนอกเคหสถาน ทำให้ไม่อาจปกป้องทรัพย์สินของตนเองได้เลย อีกทั้งแม้แต่การดับเพลิงในขณะนั้น ก็ยังไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือว่าได้รับความเดือนร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านหนังสือดอกหญ้า ถึงกับต้องปิดกิจการที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นการถาวรไม่สามารถฟื้นกลับมาดำเนินการได้อีกเลย
“จากเหตุการณ์นั้น รัฐได้ให้การชดเชยความเสียหายกับผู้เสียหายไปแล้วทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่เสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้ร่วมชุมนุม ในขณะที่พวกข้าพเจ้าที่เป็นกลุ่มที่เสียหายหนักยังตกหล่นยังไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะควรแก่เหตุ จึงขอความกรุณาจากท่านนายกรัฐมนตรี โปรดให้ความเป็นธรรมด้วย” เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าว