
สาระสำคัญที่เบิกความในวันนี้คือ
1) โครงสร้างราคาก๊าซยังมีปัญหาเรื่องความเป็นธรรม เพราะอยู่ภายใต้การผูกขาดของบริษัท ปตท.โดยไม่มีการแข่งขัน และข้อมูลต้นทุนราคาก๊าซไม่เปิดเผย ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ
2) กองทุนน้ำมันยังมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย ขณะนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา ได้มีการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกองทุนน้ำมัน
3) กองทุนน้ำมันเป็นเงินที่เก็บจากประชาชนผู้ใช้น้ำมัน และก๊าซ จึงเป็นเงินที่ประชาชนช่วยเหลือกันเอง ไม่ใช่เงินที่รัฐบาลชดเชยจากงบประมาณแผ่นดิน และเป็นกองทุนที่มีลักษณะเพื่อประกันกำไรที่แน่นอนให้กับปตท.
4) ได้ขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างการไต่สวน เพราะหากไม่มีมาตราการคุ้มครองชั่วคราว จะเกิดผลเสียต่อประชาชนอย่างไม่สามารถเยียวยาได้ เพราะค่าครองชีพ และราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นจะไม่ลดลง
5) การคุ้มครองชั่วคราว ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบ เพราะราคาที่มีการปรับเพิ่มขึ้นเดือนละ .50บาทต่อกิโลกรัม ได้เอาไปเก็บไว้ในกองทุนน้ำมัน ไม่ได้นำไปจ่ายให้กับผู้ขายก๊าซหุงต้ม จึงไม่มีความเปลี่ยนแปลงทั้งราคาเนื้อก๊าซ และรัฐไม่ได้รับภาษีเพิ่มขึ้นจากการปรับเพิ่มราคาก๊าหุงต้ม
6)การเก็บเงินที่ปรับเพิ่มจากก๊าซหุงต้มไปไว้ในกองทุนน้ำมัน มีข้อสังเกตว่า จะเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่
7) การชดเชยยังคงชดเชยจากกองทุนน้ำมันเหมือนเดิม และเมื่อปรับราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้น ก็ไม่ได้ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนจากผู้ใช้น้ำมัน
ปัจจุบันผู้ใช้เบนซิน95 ยังคงจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันในอัตราเดิมคือ 9.70บาทต่อลิตร จึงไม่ได้ลดภาระของผู้ใช้น้ำมันเมื่อมีการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มตามที่กล่าวอ้างแต่ประการใด
จากเฟสบุ๊คของ รสนา โตสิตระกูล