เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ยื่นร้องสอด ‘คดีซินเจนทา’ ฟ้องศาลปกครองเพิกถอนประกาศแบนสารพาราควอต - คลอร์ไพริฟอส พร้อมเตรียมนำเสนอข้อมูลผลกระทบ 2 สารพิษอันตราย หวังศาลคุ้มครองสุขภาพความปลอดภัยเกษตรกร - ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม
จากกรณีที่มีการออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2563 กำหนดให้สารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอส ซึ่งเป็นสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมร้ายแรง เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก การนำผ่าน หรือการมีไว้ในครอบครอง โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมานั้น ปรากฏว่า บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด บริษัทผู้ประกอบการผลิตและนำเข้าสารเคมีการเกษตรรายใหญ่ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ยื่นฟ้องกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องรวม 5 รายต่อศาลปกครองกลาง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายดังกล่าว และคำสั่งกรมวิชาการเกษตร ที่ 750/2563 เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบนั้น
วันนี้ (18 สิงหาคม 2563) ที่ศาลปกครอง แจ้งวัฒนะ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) และมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) ในฐานะตัวแทนเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thailand Pesticide Alert Network: Thai-PAN)” ซึ่งเป็นเครือข่ายความร่วมมือของกลุ่มนักวิชาการจากหลากหลายสาขา องค์กรสาธารณประโยชน์ด้านการเกษตรและการคุ้มครองผู้บริโภค และกลุ่มเกษตรกรที่ได้ร่วมกันศึกษาติดตามข้อมูลปัญหาความเป็นอันตรายและผลกระทบจากการใช้สารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอส และได้รณรงค์สื่อสารข้อมูลต่อสาธารณะและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เห็นว่าการออกประกาศแบนสารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอส เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับข้อมูลวิชาการความเป็นอันตรายร้ายแรงและผลกระทบจากการใช้สารเคมีทั้ง 2 ชนิด ตรงตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 มาตรา 18 แล้ว คือ “เพื่อประโยชน์แก่การป้องกันและระงับอันตรายที่อาจมีแก่บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม” กับทั้งหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุข สภาเกษตรกรแห่งชาติ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ตรวจการแผ่นดิน และแพทยสภา ก็ได้มีความเห็นข้อเสนอตรงกันให้แบนสารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอส
เครือข่ายฯ เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิร้องสอดขอเข้าเป็นคู่ความฝ่ายที่สามในคดีนี้เพื่อเข้าร่วมนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมจากที่หน่วยงานราชการชี้แจงต่อศาลปกครอง เพื่อให้ผลคำพิพากษานำไปสู่การคุ้มครองสิทธิตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ผู้บริโภค เกษตรกร และปกป้องประโยชน์ของสาธารณะและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
คุณปรกชล อู๋ทรัพย์ โทร. 089-8955173
คุณอัมรินทร์ สายจันทร์ โทร. 086-7311435