ตร.-ผู้ประกอบการ ผุดโครงการ"ร้านเกมสีขาว"

ตร.-ผู้ประกอบการ ผุดโครงการ"ร้านเกมสีขาว" แก้ปัญหาเด็กติดเกม

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว  21/4/52
ชูชาติ แก้วเก่า เรื่อง/ภาพ




เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ร้านเกม-ร้านอินเตอร์เน็ต

สถานที่ให้บริการเหล่านี้หากจะมองในแง่ดี คือเป็นที่เสริมทักษะความรู้แก่เด็กๆ และเยาวชน

แต่หากจะมองกันในมุมลบ ก็คือแหล่งซ่องสุมหรือแหล่งพนัน

ในช่วงปิดภาคเรียนจะมีเด็กและเยาวชนไปใช้บริการร้านเกม-ร้านอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดปัญหาตามมา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงสั่งการไปยังทุกโรงพักให้กวดขันจับตาร้านเกมเหล่านี้ให้ดี

ป้องกันไว้ดีกว่าแก้



ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา พ.ต.อ. เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผกก.สน. บางมด จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านเกม-อินเตอร์เน็ตในพื้นที่ ร่วมประชุมหารือกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขตามโครงการ "ร้านเกม-อินเตอร์เน็ตสีขาว" ดึงเจ้าของกิจการมาเป็นหูเป็นตาป้องกันปัญหา

และตำรวจจะได้เข้าถึงมวลชนมากยิ่งขึ้น

โครงการร้านเกม-อินเตอร์เน็ตสีขาว จะอบรมเพื่อให้ผู้ประกอบการร้านเกมรู้ถึงกฎหมายพ.ร.บ.ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ พ.ศ

2551 และอัตราโทษ ตลอดจนกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง



เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการมั่วสุมของเด็กๆ ที่อาจจะรวมตัวกันไปในทางไม่ดี

เจ้าของกิจการเหล่านี้จะเข้ามาเป็นแนวร่วมในการให้ข้อมูลข่าวสารยาเสพติดและ อาชญากรรมต่างๆ ในพื้นที่

เป็นการสร้างมวลชนเปิดให้ทางภาคประชาชนเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอีกทางหนึ่ง

ในโครงการยังสอดแทรกรายละเอียดด้านศีลธรรมลงไปด้วย โดยเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือจากทางเจ้าของร้าน ให้ช่วยดูแลเด็กๆ และเยาวชน เปรียบเสมือนเป็นลูกเป็นหลาน สร้างจิตสำนึกในการให้บริการ

ไม่ใช่เพียงแต่จะแสวงหาผลกำไรจากเด็กๆ เพียงอย่างเดียว



ผู้กำกับฯ เศรษฐศักดิ์รวบรวมร้านเกม-ร้านอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ได้ทั้งหมดกว่า 30 ร้าน เข้าอบรมตามโครงการ "ร้านเกม-อิน เตอร์เน็ตสีขาว" เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา

เนื้อหาการอบรมชี้แนะข้อปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรม ปลูกจิตสำนึกให้แก่ผู้ประกอบการร้านเกม-อินเตอร์เน็ตให้ดูแลเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติให้เหมือนดูแลลูกหลาน



นอกจากนี้ การอบรมยังมุ่งเน้นไปที่การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก หรือเป็นอาชญากรรมที่เด็กเป็นผู้ก่อขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นคดีลักทรัพย์หรือคดีทะเลาะวิวาทต่างๆ และยังเพิ่มมาตรการในการป้องกันภัยทางอินเตอร์เน็ตให้กับเยาวชนอีกด้วย

โดยให้ผู้ประกอบการเข้าไปแนะนำให้เด็กใช้อิน เตอร์เน็ตในเชิงสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์

เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการเน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการร้านค้า แต่เป็นการขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ช่วยดูแลเด็กและเยาวชนมากกว่า

เจ้าของร้านยืนยันว่าจะนำการอบรมที่ได้ไปปฏิบัติเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่อีกทาง

พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์กล่าวว่า การจัดโครงการร้านเกม-อินเตอร์เน็ตสีขาวขึ้นมานั้น เนื่อง จากที่ผ่านมามีปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากฝีมือเด็กและเยาวชนขึ้นบ่อยครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย

จากการสำรวจพบว่าสถานที่ที่เยาวชนจะเข้าไปรวมตัวกันมากที่สุด น่าจะเป็นร้านเกม-ร้านอิน เตอร์เน็ต

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ จึงขอความร่วมมือเจ้าของร้านซึ่งอยู่ใกล้เด็กมากที่สุดมาช่วยดูแลป้องกันปัญหา

"ร้านเกม-อินเตอร์เน็ตเหล่านี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การปิดกั้นไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงร้านเกม-อินเตอร์เน็ตก็เหมือนเป็นการปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้ของเด็กๆ

"แต่หากปล่อยให้เยาวชนเล่นเกมและใช้อินเตอร์เน็ตอย่างขาดสติ ก็จะทำให้เกิดผลเสียหาย หรือกลายเป็นแหล่งมั่วสุมได้

"ดังนั้น เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา การได้ผู้ประกอบการมาเป็นพวกจะเป็นตัวช่วยสอดส่องดูแลความผิดปกติได้เป็นอย่างดี

"เพราะคนเหล่านี้อยู่ใกล้เด็กๆ เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นกับเยาวชนได้ในระดับหนึ่ง" พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์กล่าว

ให้รอดูกันว่าผลของความร่วมมือจะเป็นอย่างไร

พิมพ์ อีเมล

เฟ้น20สินค้าติดฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์

องค์การก๊าซเรือนกระจกรับสมัคร 20 ธุรกิจเอกชน ประเดิมติดฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ หวังสร้างมาตรฐานค่าปลดปล่อยก๊าซโลกร้อนของสินค้าไทย

นายศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค/สวทช.) จัดทำโครงการส่งเสริมการใช้ "คาร์บอนฟุตพรินต์" (Carbon Footprint) บนผลิตภัณฑ์ โดยเฟ้นหาบริษัทเอกชน 20 แห่งนำร่องพัฒนามาตรฐานคาร์บอนฟุตพรินต์

 

คาร์บอนฟุตพรินต์ หมายถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจก ที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด ตลอดวัฏจักรชีวิต โดยคำนวณออกมาในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ฉะนั้น ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ จึงแสดงข้อมูลปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาของวัตถุดิบ กระบวนการผลิต ขนส่ง ใช้งาน จนถึงขั้นตอนกำจัดซาก โดยวิเคราะห์ออกมาเป็นตัวเลขติดอยู่บนสินค้า เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค

 

อบก.เปิดรับสมัครบริษัทเอกชน ที่สนใจและมีความพร้อมด้านข้อมูลพื้นฐานวัตถุดิบพอสมควร จำนวน 20 บริษัท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ คาดว่าจะสามารถติดฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ให้กับสินค้าจาก 20 บริษัทนำร่องได้ในเดือนพ.ย.2552

 

ประเทศที่พัฒนาแล้วเริ่มให้ความสำคัญกับฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ โดยติดแสดงบนชั้นวางสินค้าในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ อบก.ได้สนับสนุนให้มี "ฉลากคาร์บอน" สำหรับสินค้าที่สามารถลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอน 10% ซึ่งเป็นเพียงส่วนย่อยของคาร์บอนฟุตพรินต์ แม้ไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีความหวังที่จะพัฒนามาตรฐานคาร์บอนฟุตพรินต์ของไทยให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล

 

รศ.วีระศักดิ์ อุดมกิจเดชา ผู้อำนวยการเอ็มเทค กล่าวว่า หัวใจของฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ คือการประเมินวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ทางเอ็มเทคได้รวบรวมฐานข้อมูลวัสดุพื้นฐานและพลังงานของประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2550 เพื่อให้ครอบคลุมแหล่งวัตถุดิบตลอดจนแหล่งที่มาของพลังงานอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซธรรมชาติ ไฟฟ้า ปิโตรเลียม เหล็ก ยาง และซีเมนต์ เป็นต้น

 

ข้อมูลทั้งหมดจะใช้ในการวิเคราะห์หาวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ จากภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ เช่น ผลิตภัณฑ์กระดาษจะเริ่มต้นคำนวณตั้งแต่ นำไฟเบอร์จากไม้มาผ่านกระบวนการต้มเยื่อโดยใช้พลังงานไฟฟ้า และสารเคมีก่อให้เกิดน้ำเสีย มลพิษทางอากาศ ด้านการขนส่ง ใช้งาน รีไซเคิล ใช้เชื้อเพลิงในปริมาณเท่าใด ด้วยการคำนวณออกมาเป็นตัวเลข ติดบนฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ของสินค้าชนิดนั้นๆ

 

นางจันทิมา นียะพันธ์ ผู้จัดการงานธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท เอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเป็น 1 ในบริษัทนำร่องในโครงการคาร์บอนฟุตพรินต์ ที่จะสร้างการยอมรับในตลาดโลก ที่ผ่านมาได้ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะขั้นตอนการบำบัดของเสีย พยายามลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ปีละ 0.5%

พิมพ์ อีเมล

เตือนฟ้าคะนอง ชุดชั้นในโครงเหล็ก ควรงดออกที่โล่งแจ้ง

นาย สมชาย ใบม่วง อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 8-10 เมษายน บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมทะเลจีนใต้ และประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นทำให้บริเวณประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีลมกระโชกแรงเกินขึ้นได้ในบางพื้นที่ หรือเรียกว่า พายุฤดูร้อน หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 เมษายน บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อนลง ฝนฟ้าคะนองจะเว้นช่วง ในช่วงเวลานี้ทำให้ ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนขึ้น แต่หลังจากวันที่ 14 เมษายน พายุฤดูร้อนก็จะกลับมาใหม่อีกรอบ และจะมีปรากฏการณ์ฝนฟ้าคะนองในเวลานี้อีก 4-5 วัน สลับแบบนี้ ไปถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม ตอนนั้นประเทศไทยก็จะเข้าสู่ฤดูฝนปกติ

" ปรากฏการณ์ฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นยังถือว่าปกติ เพียงแต่รุนแรงเพิ่มขึ้น ปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทั่วโลก เรียกสภาพโดยรวมว่า การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก" นายสมชายกล่าว

นายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ นักวิชาการภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ส่วนใหญ่ปรากฏการณ์ฝนฟ้าคะนองมักจะเกิดขึ้นช่วงบ่ายไปถึงค่ำ คนที่ใส่เครื่องประดับซึ่งเป็นโลหะ รวมถึงสุภาพสตรีที่ใส่ชุดชั้นในมีโครงเหล็กที่มีคุณสมบัติเหนี่ยวนำไฟฟ้าไม่ ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะเสี่ยงต่อการโดนฟ้าผ่า ไม่ถึงกับห้ามใส่ของพวกนี้ แต่ในช่วงฝนฟ้าคะนองจะต้องหลบในบ้าน อาคาร หรือในรถจะปลอดภัยที่สุด กรณีหาที่หลบไม่ได้ แนะนำว่าให้ถอดเก็บให้มิดชิด จะอันตรายน้อยกว่าใส่ติดกับตัวสำหรับกรณีที่เกิดฟ้าผ่าในระยะใกล้ๆ ไม่ได้ผ่าแบบตรงๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าใกล้ๆ คนที่ใส่สร้อยคอ และแหวนทองคำ ทำให้คนคนนั้นมีรอยไหม้สีดำที่ลำคอ และนิ้ว ตามรอยสร้อยคอและแหวนนั้นทันที หากเก็บของพวกนี้ไว้ในกระเป๋าก็จะไม่เกิดเหตุนี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม แนะนำให้หาที่หลบในอาคารดีที่สุด" นายสธนกล่าว

 

นสพ.มติชน 09/04/52

 

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน