ถกปมคิดค่าโทรเกินประกาศ กสทช. หลัง ‘เอไอเอส’ คืนเงิน ผอ.อิศรา ‘สารี อ๋องสมหวัง’ เผยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคสั่งเครือข่าย 44 ศูนย์ทั่ว ปท. เก็บข้อมูลการร้องเรียน เชื่อยังมีกรณีบริษัทอื่นอีก ขอความร่วมมือทุกเครือข่ายตรวจสอบเพิ่ม พร้อมชดใช้คืนทุกคนเป็นการทั่วไป
รายงานข่าวจากสำนักข่าวอิศรากรณีนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทยร้องเรียนต่อนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่าบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส คิดค่าบริการโทรศัพท์ประเภทเสียง 3 G คลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz นาทีละ 1.50 บาท เกินกว่าที่ กสทช.กำหนดไว้นาทีละ 0.82 บาท โดยหากตรวจสอบพบว่า มีการคิดค่าบริการเกินกว่าที่กำหนด ต้องชดใช้เงินคืนและขอให้ กสทช.สั่งให้ทุกบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังทั้งหมดเพราะผู้ให้บริการจะคิดค่าโทรศัพท์ประเภทเสียงในอัตรานานทีละ 1.50 บาท เมื่อลูกค้าใช้บริการเกินกว่าโปรโมชั่นนั้น
(อ่านประกอบ : ‘ผอ.อิศรา’ ส่งหนังสือ ‘ฐากร’ ปมค่ายมือถือคิดค่าโทรเกินประกาศ กสทช.-ให้ชดใช้คืนผู้บริโภค )
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้ร้องเรียนกรณีดังกล่าวไป ล่าสุดได้รับแจ้งจากศูนย์บริการรับเรื่องร้องเรียน บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอไอเอสว่า บริษัทฯ พิจารณาแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนดังกล่าว โดยคืนเงินส่วนต่างที่เรียกเก็บ ซึ่งจากการตรวจสอบใบแจ้งค่าใช้บริการย้อนหลังของหมายเลขโทรศัพท์ เคลื่อนที่ 081-843-xxxx มีส่วนต่างที่ต้องคืน พร้อมดอกเบี้ย ระหว่างวันที่ 4 มีนาคม 2555 – 3 ตุลาคม 2556 (วันที่โอนย้ายเครือข่ายเป็น ระบบ AIS 3G2100 ) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,704.74 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
(อ่านประกอบ : AIS ยอมคืนเงิน ผอ.อิศรา คิดค่าโทรเกินเพดาน ร้อง กสทช.ตรวจสอบทั้งระบบ )
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัมภาษณ์ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ภายหลังมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายมีการหารือในประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ที่ประชุมเห็นร่วมกันให้เครือข่ายจังหวัด 44 ศูนย์ ลงพื้นที่สำรวจเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อทราบจำนวนผู้เดือดร้อนจากกรณีเดียวกับ ผอ.สถาบันอิศรา มีมากน้อยเพียงใด คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์จะมีการสรุปผล
ทั้งนี้ เชื่อว่าการคิดค่าบริการเกินที่กำหนดไว้มิได้เกิดขึ้นเฉพาะเอไอเอสเท่านั้น แต่ยังมีบริษัทอื่นอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาทราบเพียงว่า มีการคืนเงินเป็นราย ๆ ดังนั้น ทุกบริษัทจึงควรคืนเงินที่เรียกเก็บเกินแก่ผู้บริโภคเป็นการทั่วไป ไม่เฉพาะผู้ร้องเรียนเท่านั้น
“ทุกพื้นที่มีระบบในการจัดเก็บ ข้อมูลเรื่องร้องเรียนอยู่แล้ว แต่จำนวนไม่ใช่ประเด็นสำคัญ โดยกรณีการร้องเรียนของนายประสงค์ที่เกิดขึ้นชัดเจน เป็นเพียงรายเดียว แต่คงเกิดกับอีกหลายคน บางคนไม่รู้ เพราะไม่เคยตรวจสอบ แต่คนที่รู้และร้องเรียน จะได้รับการแก้ปัญหาเป็นราย ๆ ทั้งที่ควรจัดการเป็นการทั่วไป” เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าว .