ขสช. ร้องสภาทนายความ ตีความการเก็บภาษีย้อนหลัง 5ปี ชี้เป็นเงินกิจกรรม เครือข่ายไม่ได้มีส่วนได้เสีย

590114 news1
14 ม.ค. เครือข่ายขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน (ขสช.) ขอความช่วยเหลือสภาทนายความเรื่องถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังและระงับการสนับสนุนโครงการ นายกสภาทนายความยืนยัน สสส.ใช้ผลงานขององค์กรในการรายงานต่อรัฐสภาหลักฐานการเงินเป็นของสสส.ทั้งหมดไม่น่าจะเป็นการรับจ้างทำของ พร้อมยินดีช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเรื่องนี้


แกนนำเครือข่ายขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน (ขสช.) กว่า 20 ราย นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เข้าหารือนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ที่สำนักงานสภาทนายความ ถ.ราชดำเนิน เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกับมูลนิธิและองค์กรต่างๆ ที่ได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งรวมค่าปรับแล้วไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท และกรณีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) สั่งชะลอการจ่ายเงินโครงการสาธารณประโยชน์ที่ภาคเอกชนรับงบจากสสส.โดยไม่มีกำหนด

590114 news2
“ขอชี้แจงกับสังคมที่ยังเข้าใจผิดว่าภาคประชาชนไม่ยอมเสียภาษี ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ หากเป็นงบค่าตอบแทน หรือเงินดือนในโครงการจะต้องถูกหักเสียภาษี ณ ที่จ่ายอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ได้หนี้ภาษีหรือเบี้ยวภาษี และอีกส่วนเป็นเงินที่ทำกิจกรรมทำประโยชน์เพื่อสังคม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กรมสรรพากรต้องการให้เสียภาษีทั้งหมด และยังย้อนไปเก็บภาษีจากโครงการเก่าอีก 5 ปี จึงเป็นเรื่องยากเพราะกิจกรรมทำไปทั้งหมดแล้ว และเป็นเงินในการดำเนินงาน ไม่ใช่เงินค่าตอบแทน และองค์กรเหล่านี้ทำงานเพื่อประโยชย์สาธารณะ ควรมองเราเป็นตัวช่วยมากกว่าเป็นตัวถ่วง หรือขัดแข้งขัดขารัฐบาล”เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าว

590114 news3
นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ
กล่าวว่า "ที่สำคัญคืออย่าเพิ่งตระหนกตกใจกับจดหมายที่ได้รับจากกรมสรรพากร เพราะจะต้องดูรายละเอียดในแต่ละโครงการที่ทำกับสสส.ว่าเป็นอย่างไร เพราะภาษีสรรพากรเป็นภาษีอากรประเมิน ดังนั้นเรามีสิทธิประเมินตัวเองก่อน แล้วค่อยไปชี้แจงหากเราไม่เห็นว่าตัวเองเข้าข่ายเป็นการจ้างทำของตามที่กรมสรรพากรตีความไว้ ฉะนั้นหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบต้องรีบนำทุกสัญญาของโครงการมาให้สภาทนายความช่วยดูรายละเอียดแล้ววิเคราะห์ว่าเป็นอย่างไร"

สำหรับโครงการของภาคประชาชนที่ได้รับงบจากสสส.ที่ถูกสั่งชะลอโครงการนั้น นายเดชอุดม กล่าวว่า ทางรัฐบาลจะต้องมีมาตรการระยะสั้น และทางเครือข่ายควรทำหนังสือชี้แจงไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้นายกรัฐมนตรีรับทราบและแก้ปัญหา เพื่อที่จะให้โครงการต่างๆสามารถดำเนินการต่อเนื่องได้

ส่วนเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน ยืนยันงบของสสส.แบ่งเป็นสองส่วน เป็นค่าตอบแทนและงบในการดำเนินการ ปัจจุบันทุกองค์กรมีการจ่ายภาษีรายได้ประจำปีจากค่าตอบแทน ส่วนงบสนับสนุนในการดำเนินกิจกรรมใช้งบประมาณตามหลักเกณฑ์ของ สสส.ทุกประการ การเรียกให้จ่ายภาษีงบดำเนินการย้อนหลังจะสร้างปัญหาเพราะงบประมาณในการดำเนินการทุกองค์กรได้ใช้ในการทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพไปหมดแล้ว ทำให้องค์กรไม่มีเงินในการจ่ายย้อนหลังนี้ ถึงแม้จะตีความว่าต้องจ่ายก็ตาม

พิมพ์ อีเมล