คำเตือน

JFolder: :files: Path is not a folder. Path: /home/consumer/web/consumerthai.org/public_html/images/action/540111_ngv

แจ้งให้ทราบ

There was a problem rendering your image gallery. Please make sure that the folder you are using in the Simple Image Gallery plugin tags exists and contains valid image files. The plugin could not locate the folder: images/action/540111_ngv

หนุนฟ้องศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวขึ้นราคาก๊าซ

รสนา ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นราคาเอ็นจีวี แนะหากประชาชนไม่เห็นด้วยกับการขึ้นราคาก๊าซ NGV และ LPG ฟ้องศาลคุ้มครองชั่วคราว ด้านกรรมาธิการ ขอเรียกร้องให้มีการทบทวนมติ ครม.เรื่องการขึ้นค่าก๊าซ

 

consumerthai - 11 ม.ค. ในงานสัมมนา “จับตายุทธการกินรวบประเทศไทย ตอนขึ้นราคาเอ็นจีวี แอลพีจี” จัดโดยคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ในวงสัมมนาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นราคาเอ็นจีวี และแอลพีจีภาคขนส่งที่จะเริ่มในวันที่ 16 มกราคมนี้ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนา ยังสงสัยต้นทุน การคำนวณราคาก๊าซที่ทำโดยสถาบันปิโตรเลียม พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัยว่า สูตรราคาที่แบ่งออกเป็นภาคปิโตรเคมี ภาคขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือน โดยตั้งข้อสงสัยหลักว่า ภาคปิโตรเคมีมีต้นทุนราคาต่ำ ที่มาที่ไป มีการสร้างกำไรให้แก่กลุ่ม ปตท. สูงเกินไปหรือไม่

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ประธาน กมธ. ศึกษาตรวจสอบฯ เสนอว่า เครือข่ายผู้บริโภค ควรดำเนินการฟ้องศาลปกครองคุ้มครองฉุกเฉิน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานชี้แจงต้นทุนราคาก๊าซว่า ขึ้นราคาด้วยเหตุผลใด เพราะหากไม่ฟ้อง และปล่อยให้ขึ้นราคาในวันที่ 16 มกราคมนี้ ผู้บริโภคจะเดือดร้อน และในส่วน กมธ.จะพิจารณายื่นต่อ ป.ป.ช. ให้สอบสวนว่า การปรับขึ้นราคาอยู่บนต้นทุนที่เป็นธรรมหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูข้อมูลพบว่า ต้นทุนราคาในตลาดโลกถูกกว่าที่ ปตท. อ้าง

โดย น.ส.รสนา ได้ใช้ข้อมูลราคาตลาดจร หรือตลาดสปอต ก๊าซปากหลุม เฮนรี่ ฮับ ของสหรัฐ เมื่อ 23 ธันวาคม 2554 ซึ่งเป็นราคาก๊าซปากหลุมระบุว่า ราคาเอ็นจีวีอยู่ที่ 3.37 บาทต่อกก.  ขณะที่ ปตท. ระบุราคาปากหลุมบวกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในไทยอยู่ที่ 8.39 บาทต่อกก. ซึ่งแตกต่างกัน โดยน.ส.รสนา กล่าวว่า ไม่ทราบว่า ค่าผ่านท่อ ค่าดำเนินการในสหรัฐอยู่ที่เท่าไหร่ จึงอยากให้ ปตท. ชี้แจงต้นทุนที่แท้จริง

ด้านนายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์ผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงการใช้ก๊าซ LPG ว่า พบกรณีไม่เป็นธรรมของก๊าซ LPG เป็นอย่างมาก ซึ่งรถยนต์ที่ใช้ LPG ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการให้ก๊าซไม่พอใช้ แต่ตรวจสอบแล้วตัวการคืออุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งก็เป็นบริษัทในเครือปตท. พอกลุ่มนี้ใช้ไม่เคยแจ้ง แต่เวลาแถลงข่าวว่าต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ปรากฎว่าไม่ใช่นำเข้า LPG แต่นำเข้าเป็นก๊าซองค์ประกอบ ซึ่งรถยนต์ใช้ไม่ได้ แต่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ แล้วเวลาสั่งจ่ายเงินชดเชย มติล่าสุดสั่งอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจ่ายแค่ 1 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆโดนกัน 5-10 กว่าบาท นี่คือหลายมาตรฐาน

นายอิฐบูรณ์กล่าวต่อว่า ถ้าเราจ่ายแพงแล้วเกิดกระจายรายได้ไม่ว่า แต่นี่ไปอยู่ที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เปรียบเหมือนเราเสียดินแดนโดยถูกกำลังผูกขาดทางเศรษฐกิจครอบงำ

ทั้งนี้ จำนวนเงินที่ประชาชนต้องจ่ายเพิ่มขึ้น คำนวณแบบทั้งปี ถึงสิ้นปี 55 เงินที่ต้องจ่ายเพิ่มส่วนของ NGV เพื่อให้ได้ก๊าซ 40 กก. จะเพิ่มอีก 140 บาท จากเดิมแท็กซี่จ่าย 340 บาท ต้องจ่าย 480 บาท ฉะนั้นบัตรเครดิตอะไรต่างๆ อย่าลืมรัฐบาลแค่สำรองจ่ายให้ก่อน แล้วไปจ่ายหนี้เองทีหลัง หากไม่จ่ายอาจถูกฟ้องยึดรถได้

ส่วน LPG จากเดิมที่ 45 ลิตร 500 บาท จะเพิ่มมา 220 บาท ต่อไป 45 ลิตรจะต้องจ่าย 720 บาท ง่ายๆทั้งปีมันขึ้นทั้งหมด 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อค่าตรงนี้เพิ่ม กลไกต่างๆ ทั้งระบบก็ต้องเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งภาระก็จะถูกผลักไปให้ผู้ที่ไม่มีปากมีเสียง

ด้านนายวงศ์ชัย ศรีไทย รองนายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมไม่ได้รับความเป็นธรรม ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรม โดยมีมติปรับขึ้นตั้งแต่กรกฎาคม 2554 ไตรมาสละ 3 บาท เป็นเวลา 1 ปี หรือรวม 12 บาทต่อกก. โดยที่ผ่านมาปรับขึ้นแล้วในเดือนกรกฎาคมและตุลาคม รวม 6 บาทต่อกก. และจะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนเมษายน 3 บาทต่อกก. ขณะที่ภาคขนส่งจะเริ่มปรับม.ค. นี้ รวมแล้วปรับในปีนี้สำหรับภาคขนส่ง 9 บาทต่อกก. ส่วนภาคปิโตรเคมีมีการเก็บเงินเข้ากองทุนประมาณ 1 บาทต่อกก. เท่านั้น

ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ และอุตฯ เซรามิค อุตฯ แก้วได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะใช้แอลพีจีเป็นต้นทุนร้อยละ 30-40 นับเป็นต้นทุนเพิ่มร้อยละ 28 ซึ่งหลังจากขึ้นราคาโรงงานเซรามิคได้ปิดตัวแล้ว 3 โรง และจากต้นทุนของไทยที่สูงกว่าจีน ทำให้ลูกค้าไปเลือกซื้อจากประเทศอื่นมากกว่า โดยโรงงานเซรามิคในลำปางเป็นรูปแบบคลัสเตอร์ โรงงานใหญ่จะรับออร์เดอร์มาจ่ายต่อ ขณะนี้ออร์เดอร์ลดน้อยลง และเมื่อต้นทุนสูงขึ้น คาดว่า โรงงานขนาดเล็กจะทยอยปิด คนงาน 5-6 พันคนจะทยอยตกงาน นอกจากนี้ การที่กระทรวงพลังงานกำหนดการขึ้นราคา ให้ขึ้นเฉพาะผู้ที่ใช้แอลพีจีเป็นภาชนะขนาดใหญ่ หรือ (BULP) ขณะที่โรงงานที่ใช้ถังก๊าซแอลพีจีเป็นถังก๊าซครัวเรือน ราคาไม่ได้ขยับขึ้น ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม

นายวิทูรย์ แนวพาณิชย์ ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขต กทม. กล่าวว่า ในช่วงที่ คณะกรรมการ นโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติปรับขึ้นราคาก๊าซเมื่อ 4 ต.ค. 2554 และหลังจากนั้น ครม. มีมติเห็นชอบ ทางกลุ่มแท็กซี่ไม่ทราบเลยว่า รัฐบาลมีมติดังกล่าว เพราะช่วงนั้นกลุ่มแท็กซี่เร่งจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม มาทราบอีกครั้งช่วงที่ ปตท. เชิญหารือบัตรเครดิตพลังงาน ก็รู้สึกตกใจว่า ทำไมรัฐบาลถึงทำร้ายกลุ่มแท็กซี่ด้วยการปรับราคา โดยปัจจุบันต้นทุนทุกอย่างสูงมาก ทั้งค่าเช่า ค่าครองชีพ หากค่าก๊าซสูงขึ้น ทุกอย่างก็จะขึ้นหมด ทางกลุ่มไม่ต้องการเห็นการปรับค่าโดยสาร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปตท.แจงขึ้นราคา NGV อ้างปัจจุบันขายต่ำกว่าทุนมาก

{gallery}action/540111_ngv{/gallery}

 
รับชมบันทึกการเสวนา“จับตายุทธการกินรวบประเทศไทย ตอน การขึ้นราคาก๊าซ NGV และ LPG”
จัดโดย คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา
โดย คณะอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังาน ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน
วันพุธที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๒.๐๐ นาฬิกา ณ โรงแรมเอเชีย
บันทึกโดย
เครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดกาญจนบุรี

พิมพ์ อีเมล