กลุ่มผู้ซื้อรถยนต์มาสด้า รุ่น ซีเอ็กซ์ - 5 ดีเซล พร้อมหัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิฯ มพบ. เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบริษัทที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากพฤติการณ์ที่อาจจะเข้าข่ายหลอกลวงหรือฉ้อโกงผู้บริโภค
วันนี้ (12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561) เวลาประมาณ 11.00 น. กลุ่มผู้ซื้อรถยนต์มาสด้า รุ่น ซีเอ็กซ์-5 ดีเซล จำนวน 4 ราย พร้อมด้วยนางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบริษัทที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท มาสด้า พาวเวอร์ แมนูเฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือ บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องที่อาจจะเข้าข่ายหลอกลวงหรือฉ้อโกงผู้บริโภค
สืบเนื่องจากกลุ่มผู้เสียหาย ได้ซื้อรถยนต์มาสด้า รุ่น ซีเอ็กซ์-5 ดีเซล จากบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยได้รับคำโฆษณาคุณสมบัติของรถรุ่นดังกล่าวว่า ทนทาน ดูแลรักษาง่าย และมีข้อความในสื่ออินเตอร์เน็ทว่า สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน บำรุงรักษาดูแลง่าย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่มีราคาแพงสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด ทำให้ผู้เสียหายตัดสินใจซื้อ แต่เมื่อนำรถไปใช้กลับพบปัญหาในการใช้งานรถยนต์รุ่นดังกล่าว คือ เครื่องยนต์สั่น เร่งไม่ขึ้นในบางครั้งขณะที่ขับในช่วงความเร็วโดยประมาณ 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยไม่ทราบสาเหตุ ปัญหาน้ำดัน และภาวะน้ำมันปนเปื้อนน้ำมันดีเซลในอ่างน้ำมันเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอ ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นปัญหาที่มีผลกระทบหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนได้ อีกทั้งศูนย์ซ่อมรถยนต์ของบริษัทฯ ไม่ส่งมอบหลักฐานการซ่อมจึงแจ้งให้บริษัทฯ แก้ไขอาการที่เกิดขึ้น แต่บริษัทฯ ไม่สามารถแก้ไขอาการดังกล่าวให้หายขาดได้
นายเอก ชัยวิบูล หนึ่งในผู้ใช้รถยนต์มาสด้า รุ่น ซีเอ็กซ์-5 ดีเซล ที่ประสบปัญหา กล่าวว่า หลังจากเครื่องยนต์มีปัญหา ได้ส่งรถเข้าศูนย์ซ่อมของมาสด้า แต่หลังจากซ่อมเสร็จทางมาสด้าไม่ได้ชี้แจงว่าเครื่องยนต์เสียหายเพราะอะไร ตรงไหน และมีการเปลี่ยนอะไหล่อะไรบ้าง นอกจากนี้ยังไม่ได้แจ้งว่าเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนให้นั้นเป็นรุ่นที่พัฒนามาใหม่หรือไม่ และมีมีการรับประกันว่าเหตุการณ์ ทำให้ผู้ใช้เกิดความกังวลว่าเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนมาใหม่นั้นอาจเกิดปัญหาเดิมขึ้นอีก
“สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจคือเรื่อง ปัญหาน้ำดัน เนื่องจากทำให้มีน้ำรั่วออกมาตรงบริเวณเครื่องยนต์ ซึ่งในขณะขับขี่ผู้ใช้รถจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ถ้าขับเป็นระยะทางไกลๆ อาจจะทำให้น้ำแห้งและเครื่องยนต์ดับขณะขับขี่ จนไม่สามารถเบรกหรือควบคุมรถได้ ซึ่งหากเกิดปัญหาดังกล่าวขณะใช้ความเร็วหรือขับรถลงจากเขาก็อาจทำให้เกิดอุบัติร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้” นายเอกกล่าว
สภาพเครื่องยนต์ จากรถยนต์มาสด้า รุ่น ซีเอ็กซ์-5 ดีเซล เกิดจากปัญหาน้ำดัน ทำให้มีน้ำรั่วออกมาบริเวณเครื่องยนต์
อีกทั้ง เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2559 นายมาซามิชิ โคไก ประธานบริษัท มาสด้า คอร์เปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น มีหนังสือแจ้งความบกพร่องของรถยนต์ 3 รุ่น 5 โมเดล รวม 117,030 คัน และวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 มีหนังสือแจ้งความบกพร่องของรถยนต์อีก 3 รุ่น 6 โมเดลรวม 158,785 คัน โดยเอกสารทั้ง 2 ฉบับ ยื่นต่อกระทรวงที่ดินและโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น นายมาซามิชิ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงน่าจะทราบอยู่แล้วว่ารถยนต์รุ่นดังกล่าวมีการเรียกคืนในประเทศญี่ปุ่น แต่ยังคงให้บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ขายรถยนต์รุ่นดังกล่าว ทั้งที่ควรมีการแก้ไข แจ้งข่าว หรือดำเนินการเช่นเดียวกันกับในประเทศญี่ปุ่น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้เสียหายมองว่าพฤติการณ์ของบริษัทฯ อาจจะเข้าข่ายหลอกลวง หรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอกแจ้งให้แก่ผู้บริโภค ทำให้หลงเชื่อและทำสัญญาซื้อขายหรือเช่าซื้อรถมาสด้า รุ่น ซีเอ็กซ์-5 ดีเซล ซึ่งเข้าข่ายความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 หรือมาตร 341 และ 343 หรือไม่ คงต้องฟังผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจาก บก.ปคบ. ต่อไป
นางนฤมล กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้นำมาซึ่งความเสียหายของผู้บริโภคที่ใช้รถยนต์เป็นจำนวนมาก กลุ่มผู้เสียหายและ มพบ. ในฐานะองค์กรทำงานด้านผู้บริโภค จึงเข้ามายื่นหนังสือให้กับบก.ปคบ. ตรวจสอบ ในวันนี้ทางตำรวจได้รับเรื่องดังกล่าวไว้และจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน ซึ่งทาง มพบ. คาดหวังว่าเรื่องนี้จะมีความคืบหน้าในอนาคต อีกทั้ง สำหรับผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการใช้รถยนต์มาสด้า รุ่น ซีเอ็กซ์-5 ดีเซล สามารถติดต่อได้ที่ มพบ. โทรศัพท์ 02-248-3734 ถึง 37
