เขียนโดย ศูนย์ข่าวผู้บริโภค. จำนวนผู้ชม: 5502
สปช.รสนา นำกลุ่มเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย ร้องศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่งเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 51 เหตุ ปตท.แจ้งข้อมูลเท็จ อ้างคืนทรัพย์สินให้รัฐครบแล้ว ขณะที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เผย การที่ปตท.ไม่ยอมให้ สตง.ตรวจสอบเป็นการลัดขั้นตอน
วันนี้ (21 พ.ค 58) ที่ศาลปกครอง นางสาวรสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านพลังงาน นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ และ นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค พร้อมเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย เข้ายื่นหนังสือขอเพิกถอนคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2551 ต่อศาลปกครองสูงสุด
นางสาวรสนา กล่าวว่า จากคำวินิจฉัยของ สำนักงานการตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่ 23 เมย. 2558 ระบุไว้ว่าการยื่นเอกสารของ ปตท. กรณีคืนทรัพย์สินให้รัฐครบแล้ว เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2551 ต่อศาลปกครองสูงสุดนั้น เป็นการยื่นเอกสารอันเป็นเท็จต่อศาล ซึ่งมีผลต่อการบังคับคดี ทางเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย จึงได้นำหลักฐานมาขอเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุด
"ประเด็นนี้ ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ระบุไว้ว่า เป็นการลัดขั้นตอนในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งทำให้เอกสาร ที่ทางปตท.นำมารายงานต่อศาลนั้น เป็นรายงานอันเป็นเท็จ และมีผลต่อการตัดสินของศาลที่กล่าวไว้ว่า ได้คืนทรัพย์สินครบถ้วนแล้ว" สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านพลังงาน กล่าว
พร้อมกล่าวต่อว่า หากศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่งเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 51 เรื่องนี้ก็จะกลับมาที่จุดใหม่ว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องมีมติครม. หรือมีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา
สปช.รสนา นำกลุ่มเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย ร้องศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่งเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 51 เหตุ ปตท.แจ้งข้อมูลเท็จ อ้างคืนทรัพย์สินให้รัฐครบแล้ว ขณะที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เผย การที่ปตท.ไม่ยอมให้ สตง.ตรวจสอบเป็นการลัดขั้นตอน
วันนี้ (21 พ.ค 58) ที่ศาลปกครอง นางสาวรสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านพลังงาน นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ และ นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค พร้อมเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย เข้ายื่นหนังสือขอเพิกถอนคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2551 ต่อศาลปกครองสูงสุด
นางสาวรสนา กล่าวว่า จากคำวินิจฉัยของ สำนักงานการตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่ 23 เมย. 2558 ระบุไว้ว่าการยื่นเอกสารของ ปตท. กรณีคืนทรัพย์สินให้รัฐครบแล้ว เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2551 ต่อศาลปกครองสูงสุดนั้น เป็นการยื่นเอกสารอันเป็นเท็จต่อศาล ซึ่งมีผลต่อการบังคับคดี ทางเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย จึงได้นำหลักฐานมาขอเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุด
“ประเด็นนี้ ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ระบุไว้ว่า เป็นการลัดขั้นตอนในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งทำให้เอกสาร ที่ทางปตท.นำมารายงานต่อศาลนั้น เป็นรายงานอันเป็นเท็จ และมีผลต่อการตัดสินของศาลที่กล่าวไว้ว่า ได้คืนทรัพย์สินครบถ้วนแล้ว” สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านพลังงาน กล่าว
พร้อมกล่าวต่อว่า หากศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่งเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 51 เรื่องนี้ก็จะกลับมาที่จุดใหม่ว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องมีมติครม. หรือมีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา
