กรณีผู้บริโภคพบสิ่งแปลกปลอมในน้ำผลไม้กล่องยี่ห้อดัง ล่าสุดโผล่อีกรายมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเร่งตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2560 ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภครายหนึ่งจาก จ.ระนองว่า ได้ซื้อน้ำส้มและน้ำสับปะรดยี่ห้อหนึ่งจากห้างชื่อดังของจังหวัดตามปกติ เมื่อเทน้ำสับปะรดใส่แก้วเพื่อดื่ม กลับเจอสิ่งแปลกปลอมที่มีลักษณะเป็นฝ้าลอยอยู่ในน้ำผลไม้ ต่อมาได้แกะกล่องออกก็พบว่ามีเชื้อราเป็นแผ่น คล้ายกับกระดาษแข็งที่เปียกน้ำอยู่ด้านในกล่อง จึงส่งเรื่องร้องเรียนมาทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคให้ช่วยติดต่อกับบริษัทเจ้าของน้ำผลไม้ดังกล่าว
“อยากให้บริษัทนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปตรวจสอบถึงสาเหตุของเชื้อราที่พบและแจ้งผลว่าเชื้อราดังกล่าวเป็นอันตรายกับผู้บริโภคหรือไม่ไม่อยากให้แก้ปัญหาแค่เอากระเช้าน้ำผลไม้มาสมนาคุณแล้วหายไป และปัจจุบันเรื่องยังอยู่ในกระบวนการตรวจพิสูจน์ของทางบริษัท” ผู้ร้องเรียนกล่าว
นางสาวมลฤดี โพธิ์อินทร์ นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า
“การพบสิ่งแปลกปลอมลักษณะเป็นก้อนหรือแผ่นสีดำปนขาวลอยปะปนอยู่ในน้ำผลไม้บรรจุกล่องนั้น ส่วนมากที่ตรวจพบมักเป็นเชื้อราซึ่งมีสาเหตุจากการผลิตที่ไม่สะอาด กล่องมีรอยรั่วขนาดเล็กที่มองไม่เห็น ทำให้อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยาภายในกล่องจนเกิดเชื้อราได้
เชื้อราหรือจุลินทรีย์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดอาการป่วย โดยสังเกตว่าเมื่อได้รับเชื้อภายใน 1-48 ชั่วโมงจะมีอาการดังต่อไป ได้แก่ ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียนหรือมีไข้ร่วมด้วย
ทั้งนี้การผลิตหรือจำหน่ายอาหารที่เสื่อมสภาพก่อนวันหมดอายุเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอาหารและยา พ.ศ.2522 มาตรา 25(1)เรื่องอาหารไม่บริสุทธิ์ หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษตามมาตรา 58 ว่าต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า จากสถิติ
เรื่องร้องเรียนของมูลนิธิฯเรื่องอาหารปนเปื้อนหรืออาหารไม่บริสุทธิ์ ของหมวดอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ในปี 2558 มีผู้ร้องเรียน 21 ราย หรือ 67.74% และในปี 2559 มีผู้ร้องเรียน 20 ราย คิดเป็น 68.97% จากสถิติดังกล่าว ประมาณ 2% จะเป็นกรณีร้องเรียนเรื่องน้ำผลไม้บรรจุกล่อง โดยพบปัญหาคล้ายกันคือ เป็นฝ้าสีดำหรือขาวลอยอยู่บนผิวน้ำ และเมื่อเปิดกล่องดูจะพบ ลักษณะเป็นแผ่นแข็งๆ สีน้ำตาลอ่อนจางๆ คล้ายหนังปลาอยู่ที่ก้นกล่องซึ่งพบว่าเป็นเชื้อรา ที่มีผลต่อสุขภาพ
จากกรณีข้างต้นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายควรจะต้องแก้ไขและคุมเข้มในทุกขั้นตอน ทั้งการผลิต จัดส่ง จัดเรียงสินค้า เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาซ้ำๆแบบเดิมและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค” หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิกล่าว
หากผู้บริโภคพบสิ่งแปลกปลอมในน้ำผลไม้กล่องหรือสินค้าอื่นควรทำดังนี้
1.ถ่ายรูป (ฉลากโดยเฉพาะวันผลิต-วันหมดอายุ และตัวสินค้า) พร้อมเก็บบรรจุภัณฑ์ของสินค้า และใบเสร็จจากร้านที่ซื้อไว้เป็นหลักฐาน (ควรถ่ายสำเนาใบเสร็จเก็บไว้ด้วย)
2.หากร่างกายมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์และขอใบรับรองแพทย์เพื่อเก็บหลักฐานยืนยัน
3.นำหลักฐานทั้งหมดแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจท้องที่ เพื่อเป็นหลักฐาน
4.ทำหนังสือถึงบริษัทพร้อมแนบสำเนาหลักฐานทั้งหมดและแจ้งความประสงค์ของเรา ว่าต้องการให้ทางบริษัทดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาพร้อมชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น
5.หากบริษัทดังกล่าวเพิกเฉยให้ติดต่อร้องเรียนได้ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 02-248-3734 หรือทางสายด่วน อย. 1556
ข้อแนะนำสำหรับผู้บริโภคเวลาซื้อน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มที่บรรจุกล่อง ให้ปฏิบัติดังนี้
1.เลือกซื้อกล่องที่มีสภาพดี ไม่บุบหรือชำรุด
2.รับประทานโดยการเทใส่แก้วเพื่อสังเกตสิ่งแปลกปลอมในเบื้องต้น
3.เมื่อเปิดกล่องแล้วควรเก็บในตู้เย็นและไม่ควรบริโภคเกิน 5 วัน
อย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรรักษาสิทธิของตนเอง หากพบเจอความผิดปกติใดๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการควรดำเนินการรักษาสิทธิหรือร้องเรียนกับหน่วยงานดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้ผู้ผลิตรวมไปถึงผู้จัดจำหน่าย ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดกับประชาชนจำนวนมาก
อ้างอิงข้อมูล http://www.doikham.co.th/knowledge-details.php?id=11
http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1226/bacillus-%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%AA