
โดยในคำฟ้องระบุว่าขอให้ศาลบังคับให้จำเลยทั้ง 4 กระทำการคือ
1.ขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ดำเนินการแพร่ภาพและกระจายเสียงรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ผ่านระบบการส่งภาคพื้นดิน ผ่านระบบจานรับสัญญาณดาวเทียม ผ่านระบบอื่นใด หรือดำเนินการใดๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับชมรายการผ่านการรับสัญญาณทุกประเภทตามที่เคยปฏิบัติ โดยด่วนที่สุดก่อนฤดูกาลแข่งขันจะสิ้นสุดในวันที่ 2 กรกฎาคม 2555 (กรณีดังกล่าวศาลได้พิพากษา ไม่รับคุ้มครอง ให้ถ่ายทอดสดแล้วเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2555)
2.ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ที่กระทำโดยเจตนาเอาเปรียบผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรมหรือจงใจให้ผู้บริโภคได้ รับความเสียหายอย่างร้ายแรงไม่นำพาต่อความเสียหายที่จะเกิดแก่ผู้บริโภคหรือ กระทำการอันเป็นการไม่รับผิดชอบต่อธุรกิจของตนเอง ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยทั้งสี่จ่ายค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มขึ้นโดยคำนึง ถึงความเสียหายที่ผู้บริโภคได้รับจำนวน 11 ล้านครอบครัวและผลประโยชน์ที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ได้รับและสถานะการเงินของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ด้วย
3.ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวน 1,590 บาท หรือ ในราคาเท่ากับกล่องรับสัญญาณของ GMMZ
4. ขอให้ศาลมีคำแนะนำไปถึงรัฐบาลให้เร่งดำเนินการผลักดันให้เกิดองค์การอิสระ เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคตามมาตรา 61 ของรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุดเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้บริโภค เพราะกลไกการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด ไม่สามารถคุ้มครองการละเมิดสิทธิผู้บริโภคในการเข้าถึงฟรีทีวีได้ดัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันในสังคมไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลแพ่งยกคำร้องกรณีขอคุ้มครองชั่วคราวบอลยูโรจอดำ