![](/images/stories/peple/Sawanee-Chumchalieo.jpg)
วันนี้ (30 มกราคม 2555) เวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 907 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์นัดแรก ในคดีที่บริษัท แพล็ตตินัม มอเตอร์เซลส์ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ตู้ยี่ห้อโฟตอน จากประเทศจีน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้บริโภคจำนวน 20 ราย ซึ่งเป็นผู้ซื้อรถยนต์ตู้โฟตอนฯ จำนวน 19 ราย และนางสาวสวนีย์ ฉ่ำเฉลียว เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคอีก 1 ราย เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและ แจ้งความเท็จ หลังผู้บริโภคซื้อรถยนต์ตู้ดังกล่าวมาใช้แล้วเกิดปัญหาได้รับความเสียหาย และบริษัทฯ ไม่รับผิดชอบต่อความชำรุดบกพร่องของรถ จึงนำข้อเท็จจริงมาเปิดเผยกับสาธารณชน และแจ้งร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.)
ทั้งนี้ ทนายโจทก์ จำเลยเกือบทั้งหมด พร้อมด้วยทนายความจำเลยมาศาล แต่เนื่องจากศาลธัญบุรี ส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 18 โดยวิธีปิดหมายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2555 ซึ่งนับถึงวันไต่สวนมูลฟ้องยังไม่ครบระยะเวลา 15 วัน ตามกฎหมายถือว่าจำเลยที่ 18 ยังไม่ได้รับหมายนัด และสำเนาคำฟ้อง ศาลจึงไม่สามารถไต่สวนมูลฟ้องได้และมีคำสั่งให้เลื่อนไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้ออกไปเป็นวันที่ 2 เมษายน 2555
นางสาวสวนีย์ ฉ่ำเฉลียว เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค หนึ่งในจำเลยในคดีนี้ กล่าวว่า ตนรู้สึกแปลกใจต่อการยื่นฟ้องของบริษัทแพล็ททินัม มอเตอร์เซลส์ จำกัด ที่กล่าวหาว่าผู้บริโภคหมิ่นประมาทและแจ้งความเท็จ ทั้งๆที่เป็นการใช้สิทธิของผู้บริโภคตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 61 คือ สิทธิของบุคคลที่เป็นผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองในการได้รับข้อมูลที่เป็นจริง และมีสิทธิร้องเรียนเพื่อให้ได้รับการแก้ไขเยียวยาความเสียหายรวมทั้งมีสิทธิรวมตัวกัน เพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค ผู้บริโภคที่รับความเสียหายจึงได้รวมตัวกันมาร้องเรียนที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งขั้นตอนอยู่ในระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ย แต่บริษัทกลับยุติการเจรจาและฟ้องร้องผู้บริโภคเป็นคดีอาญาและยังเรียกค่าเสียหายที่สูงเกินเหตุอีกด้วย จึงดูเหมือนว่าไม่ได้มีการเคารพในสิทธิของผู้บริโภคที่ผู้ประกอบการที่ดีพึงจะมี
“การที่บริษัทแพล็ททินัมฯฟ้องผู้บริโภคในครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นช่องทางที่ดี ในการนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงแก่ศาล และสาธารณชนได้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว” นางสาวสวนีย์กล่าว
เช่นเดียวกับนางประทิน ซื่อเลี่ยม หนึ่งในผู้บริโภคซึ่งถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีนี้ ได้กล่าวว่า แม้จะเป็นกังวลว่าเมื่อตนเองนำความเดือดร้อน เสียหายที่ได้รับ มาร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แต่กลับต้องถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีนี้ แต่เชื่อว่าศาลจะได้พิจารณาถึงข้อเท็จจริง ความเสียหายที่เกิดขึ้น ตนเองรวมถึงผู้บริโภคคนอื่นๆ ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลย จะได้รับความยุติธรรม และได้รับการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น