ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม จ.ตรัง อบรมอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิในระดับอำเภอ ในวันที่ 15 พ.ย. 2552 ณ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 50 คน จาก 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.นาโยง อ.กันตัง อ.ปะเหลียน อ.ย่านตาขาว อ.วังวิเศษ อ.หาดสำราญ และ อ.ห้วยยอด
เวทีครั้งนี้เป็นการจัดอบรมอาสาสมัครที่ ผ่านเวทีระดับพื้นที่ 4 พื้นที่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างอาสาสมัครที่มีความสามารถในการนำความรู้ความ เข้าใจเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมไปเผยแพร่ต่อในชุมชน เมื่อมีเรื่องร้องเรียนหรือรับทราบปัญหาก็สามารถส่งต่อไปยังศูนย์คุ้มครอง สิทธิผู้บริโภค จ.ตรังได้ รวมถึงปฏิบัติการเพื่อจัดกิจกรรมและสร้างเครือข่ายการคุ้มครองสิทธิจัดการ ปัญหาและผลักดันเคลื่อนไหวข้อเสนอของผู้บริโภคที่เป็นภาคีประเด็นต่าง ๆอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ซึ่งมีขั้นตอนการจัดเวทีดังนี้เริ่มจาก
การระดมความคาดหวัง
ทำความเข้าใจกลไกโครงสร้างทิศทางงานคุ้มครองผู้บริโภคที่เชื่อมโยงถึงองค์การอิสระผู้บริโภค
แบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นเรื่องคุณสมบัติของอาสาสมัคร
ระดมปัญหาที่อาสาสมัครได้ทราบและพบในพื้นที่ที่น่าสนใจ เช่น การบริการโอนย้ายคู่สายล่าช้า คิดค่าบริการเสริมที่ไม่เต็มใจสมัคร
แนวทางในการรับเรื่องและการแก้ไขปัญหาผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมโดยอาสาสมัคร
แบ่งกลุ่มระดมความคิดแนวทางการทำงานของอาสาสมัครในพื้นที่
โดยพบว่า เครือข่ายที่สามารถทำงานต่อยอดได้ทันที คือ เครือข่ายวิทยุชุมชนของพื้นที่ ได้แก่
สถานีวิทยุ line fm 88.5 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.00 – 13.00 น. รายการสนทนาประสาคนตรัง
สถานีทับเที่ยงเรดิโอ fm 105.25 ทุกวันอาทิตย์เวลา 16.00 – 18.00 น. รายการสภากาแฟทางอากาศ
สถานีคนรักถิ่นตรัง fm 93.0 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 12.00 น. รายการวันนี้ที่บ้านเรา
สถานีกันตังเรดิโอ fm 99.5 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00 – 17.00 น. รายการวันนี้ที่บ้านเรา
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ฅนตรัง
โดยจะมีการเผยแพร่ข้อมูลสิทธิผู้บริโภค ประสานการแก้ไขปัญหา ร่วมกับศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค จ.ตรัง และส่งต่อปัญหาสู่กลไกอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ได้ประสานงานกับสถานีวิทยุ มอ. หาดใหญ่ fm 88 เพื่อถ่ายทอดทาง http://www.psuradio88.com/ ที่เป็นสื่อกระแสหลักของภาคใต้ต่อไป
ทั้งนี้ ผลจากการอบรมจะมีการรวบรวมเพื่อดำเนินการสรุปถอดบทเรียน ในเวทีของคณะทำงาน จ.ตรัง ร่วมกับคณะทำงานกลไกภาคใต้และการพัฒนาแผนงานต่อไป
