ตามที่ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย ได้ออกประกาศต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 64 แจ้งยกเลิกกรมธรรม์ประกันโควิด แบบเจอจ่ายจบ หรือ 2 in 1 โดยให้เหตุผลว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และต่อมา คปภ. ในฐานะนายทะเบียนได้ออกคำสั่งนายทะเบียน ที่ 38 /2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัทในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัยนั้น
ล่าสุดวันนี้ 17 ก.ค. 64 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้รับแจ้งจากผู้บริโภคจำนวนมากที่ทำประกันภัยโควิด กับ บริษัท สินมั่นคงประกันภัยว่า ได้รับหนังสือบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด ลงวันที่ 13 ก.ค. 64 ลงนามโดยผู้รับมอบอำนาจ โดยมีสาระสำคัญที่กล่าวถึงเงื่อนไขการบอกเลิกตามสัญญาประกันภัยหมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนดข้อ 2.4.3 และ ข้อ 2.5.1 ซึ่งหนังสือฉบับดังกล่าวสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภคจำนวนมาก จึงมาร้องต่อมูลนิธิ ฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ
มูลนิธิ ฯ เห็นว่า พฤติกรรมดังกล่าวของ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย เข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งที่การประกอบการของบริษัทเป็นธุรกิจที่ต้องคาดการณ์ความเสี่ยงล่วงหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้รับทำประกันภัยโควิดกับประชาชนไว้จำนวนมาก เท่ากับยอมรับความเสี่ยงและผลตอบแทนไว้อย่างดีแล้ว แต่การอ้างเหตุความเสี่ยงจากสถานการณ์โควิดมาบอกเลิกสัญญากับผู้เอาประกัน จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ บริษัทยังลักไก่ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญา ก่อนแจ้ง คปภ. ในฐานะนายทะเบียน โดยอาจหวังตัดตอนการเรียกร้องค่าสินไหมจากผู้บริโภค จึงเท่ากับเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคอาจหลงเข้าใจผิดต่อการประกอบธุรกิจประกันภัย และเข้าข่ายขาดจริยธรรมในการทำธุรกิจบนความเสี่ยงของผู้บริโภคภายใต้สถานการณ์โควิดที่กำลังระบาดอย่างรุนแรงในขณะนี้
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจึงขอเรียกร้องให้ คปภ. ตรวจสอบการประกอบการและสถานะทางการเงินของ บริษัท สินมั่นคงประกันภัยโดยทันที เนื่องจากเข้าข่ายมีพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบในฐานะผู้มีวิชาชีพประกอบธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน และขอให้ คปภ. เปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้เอาประกันภัยโควิดของบริษัทประกันภัยทุกบริษัทต่อสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงจำนวนที่แท้จริงของผู้เอาประกัน และเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้กับผู้บริโภคที่ทำประกันภัยโควิดทุกคน
ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ขอเชิญชวนผู้บริโภคทุกคนร่วมแสดงพลังด้วยการไม่สนับสนุนสินค้าและบริการของ บริษัท สินมั่นคง ประกันภัย เพื่อแสดงเจตจำนงว่า “ผู้บริโภคจะไม่ยอมถูกเอาเปรียบอีกต่อไป และสิทธิผู้บริโภคต้องได้รับการคุ้มครอง” #แบนสินมั่นคง