ปั๊มก๊าซโกงปีละ80ล้าน
“ในช่วงนี้มีประชาชนแห่เติมก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวีเป็นจำนวนมาก เพื่อทดแทนการเติมน้ำมัน หลังจากที่ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศแพงขึ้น ซึ่งการโกงหัวจ่ายมิเตอร์ถือว่าเอาเปรียบประชาชน” นายยรรยง กล่าว
เบื้องต้นกรมได้ประเมินความเสียหายจากการฉวยโอกาสปัดเศษเงินค่าก๊าซขึ้นไปเป็นระยะเวลา 1 ปี จะทำให้ประชาชนเสียหายมากกว่า 80 ล้านบาท แยกเป็นการเสียหายจากผู้ใช้รถที่ใช้แอลพีจีกว่า 5.5 แสนคัน มีการใช้ปริมาณวันละ 21 ล้านลิตร เสียหายถึงวันละ 2.07 แสนบาท เสียหายตลอดทั้งปี 70 ล้านบาท
ขณะที่รถใช้เอ็นจีวีประมาณ 1.14 แสนคัน ปริมาณการใช้ 30 ล้านกิโลกรัมต่อวัน จะเสียหายวันละ 2.9 หมื่นบาท ทั้งปีเท่ากับ 10 ล้านบาท
แนวทางแก้ไขปัญหากรมจะกำหนดสูตรการปัดเศษหัวมิเตอร์ให้กับปั๊มก๊าซทั่วประเทศ หากเศษ หัวมิเตอร์ไม่ถึง 34 สตางค์ จะให้ปั๊มปัดเศษลง เช่น 190.33 บาทจะ ลดเหลือ 190 บาท แต่หากเกิน 34 สตางค์ จะปัดมาอยู่ที่ 50 สตางค์
กรณีเกิน 80 สตางค์ ถึงจะปัดให้เป็น 1 บาท และจะส่งสายตรวจสำรวจหัวมิเตอร์จ่ายก๊าซทั่วประเทศ โดยมีสถานีบริการแอลพีจี 560 สถานี หัวจ่าย 2,916 หัวจ่าย ส่วนเอ็นจีวี มี 300 สถานี หัวจ่าย 1,174 หัวจ่าย
นอกจากนี้ จะส่งหนังสือชี้แจงและกำชับให้สถานีบริการดำเนินการอย่างเข้มงวด หากมีพฤติกรรมเอาเปรียบให้ถือว่าเข้าข่ายกระทำผิดต่อกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะเดียวกัน หากหัวจ่ายไม่ถูกต้องและจงใจแก้ไขจะถูกดำเนินคดีเช่นกัน มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 พ.ค. ที่ผ่านมา กรมได้ออกตรวจสอบสถานีบริการแอลพีจีแล้ว 239 สถานี มีหัวจ่ายผิดปกติ 50 หัวจ่าย ได้สั่งให้แก้ไขไปแล้ว
นสพ.โพสต์ทูเดย์ 17/6/52