iLaw จัดทำการ์ตูนชุด “4 ข้อเห็นด้วย 5 ข้อเห็นต่าง 7 ข้อเสนอเพิ่ม แก้ไข กม.บัตรทอง” สื่อสาร ปชช.เข้าใจง่ายต่อผลกระทบร่าง กม.บัตรทอง พร้อมห่วงทิศทางการออก/แก้ กม.ไทย ร้อยละ 90 ร่างโดยภาครัฐและหน่วยงานราชการ มุ่งแก้ปัญหาหน่วยงาน รวบอำนาจสู่ศูนย์กลาง ขาดการมีส่วนร่วมของ ปชช.
บริการสุขภาพ
อดีต ผอ.รพ.พรานกระต่ายชี้ปมแยกเงินเดือนจากงบรายหัว รพ.ต่างๆ ปรับตัวจนไม่น่ากลับไปเริ่มใหม่แล้ว
อดีต ผอ.รพ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ชี้หากแยกเงินเดือนออกจากงบรายหัวจะกระทบกับโรงพยาบาลที่จ้างบุคลากรนอกระบบงบประมาณจำนวนมาก ย้ำตลอด 15 ปีของระบบบัตรทองโรงพยาบาลต่างๆ ปรับตัวไปไกลจนถึงจุดที่ไม่น่ากลับไปเริ่มใหม่แล้ว แนะยังมีอีกหลายวิธีบริหารจัดการที่ทำได้
นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12/1 ตรัง อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลพรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ให้ความเห็นถึงการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 ในประเด็นเรื่องการแยกเงินเดือนบุคลากรออกจากงบเหมาจ่ายรายหัวว่า การผูกเงินเดือนเข้ากับงบรายหัวเริ่มตั้งแต่มีระบบหลักประกันสุขภาพจนถึงปัจจุบันก็ประมาณ 15 ปีแล้ว ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาโรงพยาบาลต่างๆได้ปรับตัวไปพอสมควรจนถึงระดับที่ไม่น่ากลับไปเริ่มใหม่แล้ว และหากมีการแยกเงินเดือนจากงบเหมาจ่ายรายหัวจะทำให้เกิดปัญหาทันทีกับโรงพยาบาลที่มีข้าราชการน้อยและมีการจ้างบุคลากรโดยใช้เงินนอกงบประมาณจำนวนมาก
นพ.บัลลังก์ ขยายความว่า ในภาพใหญ่แล้วโรงพยาบาลที่มีข้าราชการมากแต่ประชากร UC น้อยและโรงพยาบาลที่มีข้าราชการน้อยแต่ประชากร UC มาก มี Labour Cost ไม่หนีกัน เพราะหากมีข้าราชการมากก็จะมีการจ้างบุคลากรนอกงบประมาณน้อย แต่ถ้ามีข้าราชการน้อยก็จ้างบุคลากรนอกงบประมาณมาก
“โรงพยาบาลที่ประชากร UC เยอะแต่บุคลากรน้อยก็มีเยอะเลยโดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล ถามว่าเขาทำงานอย่างไร เขาก็จ้างบุคลากรเพิ่มเอง เช่นลูกจ้างชั่วคราว พกส. ก็เอาเงินรายหัวที่ได้เยอะกว่าที่อื่นเนื่องจากเงินเดือนมันน้อยมาจ่าย เพราะฉะนั้นภาพใหญ่สถานการณ์การเงินไม่หนีกัน ถ้าถามว่าสมควรแยกหรือไม่แยกเงินเดือน มันมี 2 มุมเสมอ ถ้าผมจ้างนอกงบประมาณเยอะ ผมก็ตอบว่าไม่ควรแยกเพราะถ้าแยกแล้วจะเกิดปัญหาทันที ลูกน้องที่จ้างนอกงบประมาณจะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย โดยเฉพาะโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล”นพ.บัลลังก์ กล่าว
นพ.บัลลังก์ กล่าวอีกว่า นอกจากการแยกเงินเดือนแล้ว ยังมีทางเลือกอื่นๆในการปรับการบริหารจัดการ เช่น การจัดการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั้งการมีกรรมการ 7x7 การบัฟเฟอร์ การมีค่า K ในการจ่าย คิดว่ามาถูกทางแล้ว เพียงแต่ถ้ายังไม่มีประสิทธิภาพมากพอก็เพิ่มค่า K เข้าไปอีก หรือหาเหตุผลไปอธิบายกับสำนักงบประมาณเพื่อของบรายหัวเพิ่มขึ้นสำหรับโรงพยาบาลที่มีวิกฤติ ซึ่งสามารถทำเป็นเคสเฉพาะได้ หรือจะใช้งบประมาณของ สธ.ไปช่วยก็ทำได้ หรือจะใช้วิธีช่วยค่าน้ำค่าไฟ Fixed Cost โดยใช้งบอีกก้อนของกระทรวงไปบัฟเฟอร์ก็ได้
“หรือโรงพยาบาลที่ประชากร UC น้อยแต่เจ้าหน้าที่มาก ก็ต้องพยายามใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่ ไม่จ้างเพิ่มหรือถ้าจ้างเพิ่มก็ควรมีปริมาณงานรองรับ ถ้าพลิกวิกฤติเป็นโอกาสก็สามารถรับส่งต่อในเคสยากๆเพื่อหารายได้ หรือพัฒนาเป็น Excellence Center เพื่อฉีกแนวทางบริการไม่ซ้ำซ้อนกับโรงพยาบาลอื่น หรือกระจายทรัพยากรลงสู่พื้นที่ห่างไกล มันมีวิธีบริหารจัดการ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกแห่งก็ปรับตัวมาตลอด ส่วนปัญหาปลีกย่อยผมคิดว่าค่อยๆแก้ ไม่มีอะไรที่แก้ไม่ได้ เพียงแต่อาจต้องใช้เวลา การแก้จุดหนึ่งแน่นอนว่ามีกลุ่มหนึ่งพอใจ อีกกลุ่มเสียเปรียบ ก็ต้องปรับไปเรื่อยๆสุดท้ายก็บาลานซ์ไปจนได้ และถ้าดูในภาพรวม โรงพยาบาลที่มีเงินบำรุงเหลือเยอะหรือมีงบประมาณมากๆก็เริ่มลดลง หรือโรงพยาบาลที่ขาดทุดเยอะๆก็เริ่มดีขึ้น ฉะนั้นในภาพใหญ่มันเริ่มไปกันได้แล้ว” นพ.บัลลังก์ กล่าว
ขณะเดียวกันในเพจของชมรมแพทย์ชนบท ได้เรียกร้องให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดข้อมูลการจัดสรรงบประมาณนอกเหนือจากงบบัตรทองในส่วนของโรงพยาบาลต่างๆ แต่ให้เปิดเผยการจัดสรรงบประมาณ อีก 2 กองทุน ในความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุข
"ไหนๆจะเปิดแล้ว ก็เปิดกันให้หมดขอเรียกร้องให้ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยข้อมูลการจัดสรรงบประมาณ อีก 2 กองทุน ในความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุข
คือ งบกองทุนคืนสิทธิ์ตามมติ ครม.23 มีนาคม 2553 และ งบแรงงานต่างด้าวที่กันไว้ส่วนกลาง ว่าจัดสรรอย่างไร เอาไปใช้อะไรบ้าง? และต้องจัดการให้เอาขึ้นเวบไซด์ เป็นปัจจุบัน เหมือนงบกองทุนบัตรทอง"
30 มิถุนายน 2560
สัมภาษณ์เพิ่มเติม นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์
ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12/1 ตรัง
โทร. 081 8861722
ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก: http://gishealth.moph.go.th/healthmap/info.php?maincode=11233
ช.แพทย์ชนบทออกแถลงการณ์ ร่วมจ่ายและจับชาวบ้านเป็นตัวประกัน
27 มิ.ย. ชมรมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์ กรณีประเด็นร่วมจ่ายและจับชาวบ้านเป็นตัวประกัน รายละเอียดดังนี้
เนื้อหาอื่นๆ...
- เอ็นจีโอ จวก ไก่อู หมอปิยะสกล ขอโทษประชาชน เหตุพูดโกหกทำให้ประชาชนเสียหาย หวังมุ่งเพื่อแก้ กม.บัตรทองง่อยเปลี้ยเสียขา
- ‘วรากรณ์’ ยันเดินหน้าแก้ กม.บัตรทอง ใช้หลักเห็นพ้อง เตรียมเสนอ รมว.สธ. 19 ก.ค.นี้
- ความจริงเรื่อง สวัสดิการรักษาพยาบาล จนท.และลูกจ้างของ สปสช.
- นักวิชาการแนะเลิกดึงดันแก้ กม.บัตรทอง ชี้หากขืนใจให้ประชาชนยอมรับคงสู้กันไม่จบ
- ภาคประชาชน ยื่นหนังสือ วรากรณ์ แจงความคิดเห็นที่แตกต่างในการแก้ไขกฎหมาย