นาย ปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ บริษัท ขนส่ง (บ.ข.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บ.ข.ส. ได้มีมติสนองนโยบายกระทรวงคมนาคม โดยจะจัดระเบียบรถตู้เถื่อนที่วิ่งให้บริการอยู่ในขณะนี้ ให้เข้ามาอยู่ในระบบการควบคุมดูแลของบ.ข.ส. เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการ และไม่ขัดระเบียบบ.ข.ส. โดยรถตู้ที่เข้าสู่ระบบ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานและระเบียบที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และบ.ข.ส. กำหนด
การให้รถตู้เถื่อนเข้ามาสู่ระบบ จะช่วยคุ้มครองความปลอดภัย และควบคุมอัตราค่าโดยสารเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนและผู้ใช้บริการ โดยสั่งการให้ฝ่ายบริหารบ.ข.ส. ไปจัดทำรายละเอียดเพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป
“เรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย บ.ข.ส.ได้ค่าธรรมเนียมเส้นทาง ผู้ประกอบการก็จะช่วยกันควบคุมรถอื่นที่ผิดกฎหมาย” นายปิยะพันธ์ กล่าว
จากสถิติที่กรมการขนส่งศึกษาพบว่าปริมาณรถตู้ที่วิ่งให้บริการใน ช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมามีกว่า 3,000 กว่าคัน แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เข้ามาดูแล คาดว่าปริมาณรถตู้จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการรถร่วม จะฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้คุ้มครองนั้น ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่บอร์ดบ.ข.ส. เห็นว่า เรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เช่นเดียวกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่จัดระเบียบ และควบคุมดูแลรถเมล์เถื่อนให้เข้าสู่ระบบ ก็ช่วยกันตรวจสอบและป้องกันรถเมล์เถื่อนเข้ามาแย่งวิ่งในเส้นทางได้
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดระเบียบรถตู้ พบว่าทำได้ เพราะสอดคล้องกับระเบียบของบ.ข.ส. เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน รวมทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นว่า บ.ข.ส.สามารถนำรถตู้เถื่อนมาจัดระเบียบให้ถูกกฎหมายได้ เพราะเป็นสิทธิของบ.ข.ส.
ด้านนางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร กล่าวว่า ในวันที่ 23 ต.ค.นี้ ทางสมาคมจะหารือร่วมกัน หากกระทรวงคมนาคมยืนยันจะให้ รถตู้เถื่อนเข้ามาวิ่งให้บริการโดยถูกกฎหมาย ก็จะยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครอง จากนั้นจะดูข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อฟ้องร้องต่อศาลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นสพ. โพสต์ทูเดย์
ศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552