สายด่วน 1569 ยอดพุ่งทะลุ 5,052 สาย ผู้บริโภคโวยสินค้า ไม่ขึ้นราคาแต่แอบลดขนาด ไม่ปิดป้ายราคา ซ้ำแก๊งต้มตุ๋นเกลื่อนเมือง
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียน 1569 จากชาวไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่เดือนต.ค. 2551–ก.ย. 2552 รวมทั้งสิ้น 5,052 สาย เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนที่มีเข้ามาประมาณ 4,000 สาย โดยส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ รวมทั้งปัญหา การลดขนาดสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มนมผง ยาสระผม ครีมนวดผม น้ำยาซักล้าง รวมถึงขนมขบเคี้ยว
ขณะที่ปัญหาการขายสินค้าเกินกว่าราคาที่กำหนดมีผู้ร้องเรียนเข้ามาลดลง เนื่องจากปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีทำให้มีการฉวยขึ้นราคาน้อย เพราะหากขึ้นราคามากจะขายไม่ได้ แต่ผู้ผลิตหันไปใช้วิธีการลดขนาดสินค้าแทน คือขายราคาเดิมแต่ขนาดน้อยลง ซึ่งเป็นการขึ้นราคาและเอาเปรียบผู้บริโภคทางอ้อม
นอกจากนี้ ยังพบการร้องเรียนเกี่ยวกับการหลอกลวงต้มตุ๋นอย่างต่อเนื่อง เช่น การหลอกลวงในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่อ้างว่าให้สิทธิเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล หรือซื้อสินค้าในราคาพิเศษ แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม หรือนำสินค้าไม่มีคุณภาพมาให้
ขณะเดียวกันยังมีการร้องเรียนจาก นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ถูกหลอกให้ซื้อสินค้าโดยเฉพาะเครื่องประดับอัญมณีในราคาแพงไม่สมเหตุผล จนสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์วงการท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้ กรมได้ติดตามแก้ปัญหาแล้วหลายเรื่อง โดยเฉพาะการติดตามกรณีนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐถูกชักชวนให้ซื้อเครื่องประดับ ราคาแพงเกินจริง ซึ่งประสานงานกับผู้เสียหายจากสหรัฐจนทำให้จ่ายเงินชดเชยแก่นักท่องเที่ยว ได้สำเร็จ รวมถึงยังช่วยประสานเรื่องฉ้อโกงที่ถูกหลอกให้บังคับซื้อสินค้าอย่างไม่เป็น ธรรมอีกหลายเรื่อง ซึ่งผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อขายสินค้าไม่เป็นธรรมสามารถ ติดต่อมาได้ที่โทร.1569
สำหรับผลการดำเนินงานของศูนย์รับเรื่องร้องเรียนด้านอื่นๆ นั้นได้ให้คำปรึกษาแนะนำแก่ประชาชนผ่านทางโทรศัพท์ และที่มาติดต่อโดยตรงที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน 3,145 ราย เกี่ยวกับข้อกำหนดในการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า มาตรการดูแลราคาสินค้า โดยตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการปิดป้ายแสดงราคาในช่องทางจำหน่ายต่างๆ รวม 1,752 ราย อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซหุงต้ม วัสดุก่อสร้าง ของใช้ประจำวัน พบการไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและจำหน่ายไม่ตรงกับป้ายราคา และได้เปรียบเทียบปรับ 201 ราย เป็นเงิน 2.3 แสนบาท
นสพ.โพสต์ทูเดย์
วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ขณะที่ปัญหาการขายสินค้าเกินกว่าราคาที่กำหนดมีผู้ร้องเรียนเข้ามาลดลง เนื่องจากปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีทำให้มีการฉวยขึ้นราคาน้อย เพราะหากขึ้นราคามากจะขายไม่ได้ แต่ผู้ผลิตหันไปใช้วิธีการลดขนาดสินค้าแทน คือขายราคาเดิมแต่ขนาดน้อยลง ซึ่งเป็นการขึ้นราคาและเอาเปรียบผู้บริโภคทางอ้อม
นอกจากนี้ ยังพบการร้องเรียนเกี่ยวกับการหลอกลวงต้มตุ๋นอย่างต่อเนื่อง เช่น การหลอกลวงในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่อ้างว่าให้สิทธิเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล หรือซื้อสินค้าในราคาพิเศษ แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม หรือนำสินค้าไม่มีคุณภาพมาให้
ขณะเดียวกันยังมีการร้องเรียนจาก นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ถูกหลอกให้ซื้อสินค้าโดยเฉพาะเครื่องประดับอัญมณีในราคาแพงไม่สมเหตุผล จนสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์วงการท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้ กรมได้ติดตามแก้ปัญหาแล้วหลายเรื่อง โดยเฉพาะการติดตามกรณีนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐถูกชักชวนให้ซื้อเครื่องประดับ ราคาแพงเกินจริง ซึ่งประสานงานกับผู้เสียหายจากสหรัฐจนทำให้จ่ายเงินชดเชยแก่นักท่องเที่ยว ได้สำเร็จ รวมถึงยังช่วยประสานเรื่องฉ้อโกงที่ถูกหลอกให้บังคับซื้อสินค้าอย่างไม่เป็น ธรรมอีกหลายเรื่อง ซึ่งผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อขายสินค้าไม่เป็นธรรมสามารถ ติดต่อมาได้ที่โทร.1569
สำหรับผลการดำเนินงานของศูนย์รับเรื่องร้องเรียนด้านอื่นๆ นั้นได้ให้คำปรึกษาแนะนำแก่ประชาชนผ่านทางโทรศัพท์ และที่มาติดต่อโดยตรงที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน 3,145 ราย เกี่ยวกับข้อกำหนดในการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า มาตรการดูแลราคาสินค้า โดยตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการปิดป้ายแสดงราคาในช่องทางจำหน่ายต่างๆ รวม 1,752 ราย อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซหุงต้ม วัสดุก่อสร้าง ของใช้ประจำวัน พบการไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและจำหน่ายไม่ตรงกับป้ายราคา และได้เปรียบเทียบปรับ 201 ราย เป็นเงิน 2.3 แสนบาท
นสพ.โพสต์ทูเดย์
วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552