พลังงานเสนอเลิกห้ามส่งออกเอทานอล

พลังงาน เสนอ คลัง ยกเลิกประกาศห้ามส่งออกเอทานอล หลังจากปัญหาขาดแคลนเริ่มคลี่คลาย พร้อมเดินหน้าตั้งอาสาสมัครพลังงานทั่วประเทศ หวังขยายแนวทางส่งเสริมพลังงานทดแทนสู่ท้องถิ่นให้ได้ 20% ภายในปี 2565

นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (20 ต.ค.) กระทรวงพลังงานจะหารือกับผู้ผลิตเอทานอล และผู้ค้าน้ำมัน เพื่อประเมินสถานการณ์เอทานอล หลังจากได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตระงับส่งออกชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาเอทานอลตึงตัว


"ขณะนี้สถานการณ์เอทานอลที่เริ่มคลี่คลายบ้าง แล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบสต็อกของผู้ผลิตและผู้ค้าน้ำมัน พบว่าปริมาณเอทานอลมีเพียงพอไปถึงปลายปีนี้ จากเดิมคาดว่าอาจจะมีปัญหาขาดแคลนไปถึงเดือนพ.ย.นี้ โดยผู้ผลิตเอทานอลจะเสนอให้กระทรวงพลังงานเปิดให้ส่งออกได้ตามปกติ"


ปัจจุบันพบว่าความต้องการเอทานอลอยู่ที่ 1.2-1.3 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่กำลังผลิตเกินความต้องการ เพราะมีโรงงานเอทานอลจากมันสำปะหลังเกิดขึ้นหลายแห่ง ส่วนปัญหาที่คาดว่าเอทานอลจะขาดแคลนมากช่วงเดือนพ.ย.นั้น เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานมั่นใจว่ามีสต็อกเอทานอลเพียงพอ จึงได้แจ้งกระทรวงการคลัง ที่ดูแลการส่งออกว่าขอให้มีการส่งออกเอทานอลได้ตามเดิม


แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างจัดทำแผนพัฒนายุทธศาสตร์ส่งเสริมพลังงานท้องถิ่น เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการ ในปี 2553 เบื้องต้นได้วางแนวทางจัดตั้งอาสาสมัครพลังงาน (อสพน.) เป็นทางการ หลังจากนำร่องมาแล้วสามปี โดยคัดเลือกบุคคลที่น่าเชื่อถือในชุมชน เช่น ครู พยาบาล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มาถ่ายทอดการใช้และประหยัดพลังงานในชุมชนตามนโยบายและยุทธศาสตร์ ซึ่งจะปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ โดยการส่งเสริมใช้พลังงานทดแทนในแต่ละจังหวัดจะแตกต่างกันตามเชื้อเพลิงใน พื้นที่


"พลังงานจังหวัดที่อยู่ 35 จังหวัด อาจไม่เพียงพอต่อภารกิจ ดังนั้นในอนาคตอาจต้องตั้งเพิ่มให้ครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบงบประมาณมากนัก"


แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ยุทธศาสตร์ส่งเสริมพลังงานท้องถิ่นดังกล่าว เป็นไปตามแผนแม่บทพลังงานทดแทน 15 ปี ที่ต้องการให้มีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 2565จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.4% ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย จึงต้องมีทุกภาคส่วนช่วย เพื่อให้การปฏิบัติไปสู่ประชาชนได้อย่างแท้จริง

ข้อมูลจาก :  นสพ.กรุงเทพธุรกิจ 20/10/52
ภาพประกอบจาก : อินเทอร์เน็ต

พิมพ์ อีเมล