พล.อ.อ. ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การหารือกับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(กระทรวงไอซีที)ในวันนี้ ทางกระทรวงไอซีทีมีประเด็นนำมาหารืออยู่หลายประเด็น สำหรับเรื่องสัญญาสัมปทานของบมจ.ทีโอที(TOT)และบมจ.กสท โทรคมนาคม(CAT)ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงไอซีทีกับภาคเอกชนที่ จะเริ่มสิ้นสุดลงตั้งแต่ปี 56 นั้น โครงข่ายเหล่านี้มีผู้ใช้บริการอยู่กว่า 70 ล้านเลขหมาย เพื่อมิให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้ใช้บริการ น่าจะมีการหารือกันในประเด็นการจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อใช้ในกิจ การโทรคมนาคมภายใต้หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
นอกจากนั้น ยังมีประเด็นการเปลี่ยนผ่านการรับส่งวิทยุกระจายเสียงและวิทยุ โทรทัศน์จากระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตัล ซึ่งก็จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางรองรับการ เปลี่ยนผ่านดังกล่าว โดยจะมีการศึกษา แนวทางการจัดทำนโยบายการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบโทรทัศน์ ดิจิตัลสำหรับประเทศไทย ศึกษาผลกระทบในด้านต่างๆ และจัดทำแนวทางรองรับการเปลี่ยนผ่านฯ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี
นอก จากนี้ ยังมีประเด็นการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการสื่อสารผ่านดาวเทียม ระหว่างกระทรวงกับสำนักงาน กสทช. ข้อหารือได้พูดถึงเรื่องของการเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการเข้าร่วม ประชุม/เจรจากับรัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศในภารกิจด้านสื่อสารผ่านดาวเทียม การบริหารและกำกับดูแลรวมถึงการอนุญาตในกิจการดาวเทียม และการให้บริการวงจรดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ การจองตำแหน่งวงโคจรดาวเทียม การกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการแข่งขันการให้บริการใช้วงจรดาว เทียมสื่อสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ การจัดสรรตำแหน่งวงโคจรที่ได้รับมาให้กับเอกชนรายใหม่ และการรักษาวงโคจรดาวเทียมจะมีแนวทางดำเนินการรักษาสิทธิอย่างไร
ประธาน กสทช. กล่าวต่อว่า ในเรื่องของการพัฒนาสังคมผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอการทางสังคมด้วย ICT นั้น กสทช. ได้ประกาศใช้แผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและ บริการเพื่อสังคม (พ.ศ. 2555-2559)หรือแผน USO ส่วนกระทรวงไอซีทีก็ได้มีการกำหนดกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสาร การสื่อสาร บริการโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการสื่อสาร และบริการสื่อสาธารณะสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นภารกิจที่มีความสอดคล้องกันจึงได้นำมาหารือถึงแนวทางการดำ เนินโครงการร่วมกันเพื่อสนับสนุนภารกิจข้างต้น
นอกจากนี้ยังมีประ เด็นเรื่องการประสานงานด้านโทรคมนาคมระหว่างประเทศระหว่างกระทรวงและ สำนักงาน กสทช. การประสานงานและจัดสรรคลื่นความถี่ตามแนวชายแดน การบริการ Free Wi-Fi ในที่สาธารณะ การพัฒนาระบบโครงข่ายโทรคมนาคมหลักเพื่อใช้สำหรับหน่วยงานภาครัฐ การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในการเผยแพร่สื่อที่ไม่เหมาะสม ในระบบโทรคมนาคม การเข้าร่วมงาน ITU Telecom World 2012 การเป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU Telecom World ร่วมถึงการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการดำเนินการร่วมกันตามน โยบายรัฐบาลและ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ระหว่างกระทรวงไอซีทีกับสำนักงาน กสทช. ด้วย
พล.อ.อ. ธเรศ กล่าวต่อว่า ทุกประเด็นที่นำมาหารือในวันนี้เป็นประเด็นที่สำคัญ ซึ่ง กสทช. เอง ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประเทศ และกระทรวง ในฐานะหน่วยงานหลักที่กำหนดนโยบาย กำกับ ควบคุม หน่วยงานในสังกัด (บมจ. ทีโอที บมจ. กสท SIPA ฯลฯ) รวมทั้งดูแลด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศให้พัฒนาไปในทิศทางที่ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล จะพิจารณาโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ
น.อ.อนุ ดิษฐ์ กล่าววา วันนี้กระทรวงไอซีที กับ กสทช. ได้มาประชุมกันเพื่อหาแนวทางในการดำเนินการร่วมกันตามนโยบายรัฐบาล และ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ที่ประชุมทั้งสองฝ่ายมีมติเห็นพ้องต้องกันว่า จะตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาพิจารณาในทุกหัวข้อที่ได้นำมาหารือกันใน วันนี้ โดยมีประธานคณะกรรมการร่วม คือ ปลัดกระทรวงไอซีที และเลขาธิการ กสทช. ซึ่งจะเห็นผลภายใน 90 วัน สำหรับบางเรื่องอาจจะเห็นผลก่อน
27 ส.ค. 2555
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์