กสทช.ขู่ปรับดีแทค20-30ล้านเหตุสัญญานล่มรอบที่5ของปี

จากกรณีที่สัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค เกิดขัดข้องใช้งานไม่ได้ บริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2555 เวลาประมาณ 11.00 น.

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจกาโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่ง ชาติ (กสทช.) กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวสำนักงาน กสทช. ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ส่งเจ้าหน้าที่ และรถตรวจสอบไปดำเนินการตรวจสอบแล้ว ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าโครงข่ายการให้บริการ 3จี ทั้งหมดใช้การไม่ได้ ส่วนการให้บริการโครงข่าย 2จี ใช้การได้บางส่วน สำนักงาน กสทช. จึงได้มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง ขอให้ตรวจสอบและรายงานเหตุขัดข้องในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยได้เชิญ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อสำนักงาน กสทช. ในวันที่ 28 สิงหาคม 2555 เวลา 16.00 น.

โดยที่ปรากฏว่า การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเครือข่ายดีแทคได้เกิดเหตุขัดข้องขึ้น หลายครั้ง สำนักงาน กสทช. ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องดังกล่าว เห็นว่า เหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการบริการประชาชนที่ต้อง ได้รับการบริการระบบโทรคมนาคมที่มีมาตรฐานและคุณภาพ ประกอบกับปัญหาในทำนองเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นหลายครั้ง และสำนักงาน กสทช. ได้มีการตักเตือนไปแล้ว ดังนั้น เพื่อกำกับการบริการประชาชนให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยในส่วนของสำนักงาน กสทช. จะได้กำหนดมาตรการการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

พร้อมกันนี้ยังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดัง กล่าว โดยมีนายทศพร เกตุอดิศร รองเลขาธิการ กสทช. เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว และกำหนดค่าปรับตามมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ที่ระบุว่าผู้รับใบอนุญาตต้องบำรุงรักษา ซ่อมแซม และแก้ไขปรับปรุงโครงข่ายโทรคมนาคม เครื่องโทรคมนาคม และอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจการโทรคมนาคมที่ผู้รับใบอนุญาตนำมาใช้ในการให้บริการ โทรคมนาคมเพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีโทษกำหนดค่าปรับไว้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท

ทั้งนี้ในการพิจารณากำหนดค่าปรับนั้นคณะกรรมการฯ จะพิจารณาถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น และความน่าเชื่อถือในการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมด้วย โดยการดำเนินงานดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 – 10 วัน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทางกฎหมายได้ทันที

โดยก่อนหน้านี้เคยเกิด เหตุการณ์ดังกล่าวกับดีแทคมาแล้ว 4 ครั้งในปีนี้ โดยลูกค้าได้โทรหาคอลเซ็นเตอร์เพื่อถามสาเหตุ แต่ปรากฏว่าดีแทคได้ขึ้นเว็บ และตอบคำถามลูกค้าว่า อยู่ในระหว่างปรับปรุงระบบ

อย่างไรก็ตาม กสทช. เห็นสมควรจะปรับดีแทค 20 - 30 ล้านบาท เนื่องจากไม่ทำตาม แม้ว่า พรบ. ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 33 ที่ว่าด้วยเรื่องการบำรุงรักษาโครงข่ายเพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้ ค่าปรับไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ที่สำคัญดีแทคทำโครงข่ายล่มมาแล้ว 5 ครั้งในรอบปีนี้ และเป็นค่าปรับของ กสทช. ในเรื่องความเชื่อถือในฐานะผู้กำกับดูแล ซึ่งก่อนหน้านี้ กสทช. มีคำสั่งทางปกครองเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมาเรื่องเครือข่ายล่ม มาแล้ว

แม้ค่าปรับตามกฎหมายจะระบุค่าปรับไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทแต่ กสทช.เห็นสมควรปรับมากกว่านี้หรือประมาณ 7 - 8 หลัก เพราะถือว่าทำให้เลขหมายที่มีอยู่ 130 ล้านเลขหมายในระบบไม่สามารถสื่อสารกันได้ นอกจากนี้ ยังมีการแจ้ง สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ซึ่งผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบสามารถฟ้องร้องได้ต่างหาก ไม่เกี่ยวกับค่าปรับของ กสทช.

สยามธุรกิจ  28/8/55

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน