ติงราคาประมูล 3G ต่ำ หวังพึ่ง กสทช. วันพุธนี้

“สารี” ติงราคาประมูล 3G ต่ำเกินไปกับการถือครอง ๑๕ ปี ชี้รายได้เข้ารัฐหดหายจาก ๔๐,๐๐๐ล้าน เหลือ ๒๗,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี ระบุที่ติงเพราะไม่ต้องการให้กำหนดกติกาเอื้อประโยชน์กับผู้ให้บริการจนทำให้รัฐเสียประโยชน์ ขาดรายได้จากที่ควรได้ แถมมีแนวโน้มไม่มีการแข่งขันเพราะลดการถือครองคลื่นเหลือ15MH ทั้งสามบริษัทน่าจะร่วมมือ(ฮั้ว)กันในการประมูล

19 ส.ค. 55 นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศหลักเกณฑ์ วิธีอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3G แล้วและจะนำเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด กสทช ในวันที่ ๒๒ สิงหาคมนี้ว่า มีประเด็นที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมห่วงใยและได้เคยทำความเห็นให้กทค.พิจารณาด้วยแล้ว โดยเฉพาะประเด็นการเพิ่มมูลค่าขั้นต่ำของการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แต่ละชุด จากที่กำหนดไว้ชุดละ ๔,๕๐๐ ล้านบาทเพราะจากราคาประมูลที่ตั้งไว้นี้กับการปรับลดให้ผู้เข้าร่วมประมูลได้สิทธิถือครองคลื่นความถี่ หรือสเปคตรัม แคป เหลือไม่เกิน ๑๕ เมกะเฮิรตซ์ เท่ากับผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องจ่ายในราคา ๑๓,๕๐๐ ล้านบาทต่อระยะเวลาการถือครองคลื่น ๑๕ ปี หรือคิดเป็นเงินที่ผู้ประมูลต้องจ่ายปีละ ๙๐๐ ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังน้อยกว่าราคาที่ผู้ประกอบการทั้ง ๓ รายผู้ครองตลาดในปัจจุบันต้องจ่ายให้แก่รัฐจำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กสทช. ได้ว่าจ้างให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการศึกษาเรื่องราคาเริ่มต้นของการประมูล และผู้วิจัยได้เสนอราคาเริ่มต้นไว้ที่ชุดละ ๖,๔๔๐ ล้านบาท ซึ่งเท่ากับราคาตั้งต้นที่ ๑๙,๓๒๐ล้านบาท

“เมื่อเดือนกรกฎาคมคณะอนุกรรมการฯได้ขอให้ กทค.ทบทวนราคาเริ่มต้นของการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ โดยยึดผลการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผลประโยชน์ของรัฐเป็นหลัก ส่วนประเด็นที่ว่า ราคาการประมูลที่สูงจะทำให้ค่าบริการสูงนั้นไม่เป็นจริงเพราะหากมีการจ่ายต่ำกว่าราคาที่บริษัทจ่ายส่วนแบ่งให้กับรัฐในปัจจุบันก็ไม่เป็นสาเหตุให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงและควรมีการกำหนดให้ราคาขั้นสูงไม่เกิน ๕๐สตางค์ในการโทรศัพท์และเนื่องจากค่าบริการค้าปลีกเป็นเรื่องของสภาวะการตลาดที่มีการแข่งขันรองรับ และมีผลการวิจัยในต่างประเทศก็แสดงให้เห็นว่า มูลค่าการประมูลกับราคาค้าปลีกไม่เกี่ยวข้องกัน เพียงแต่ตัวเลขผลประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้เพียง ๙๐๐ ล้านบาทต่อปีนั้น มันตกต่ำลงมากหากเทียบกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบันทั้งที่เป็นการให้บริการเสียงเป็นหลัก” นางสาวสารีกล่าว รวมทั้งต้องมีกติกาที่ชัดเจนให้ใช้โครงข่ายร่วมกันไม่ใช่ให้บริษัทไปตกลงกันเองดังเช่นค่าเชื่อมโครงข่ายที่ไม่มีกติกาชัดเจนทำให้เกิดการกีดกันในการใช้ครงข่ายร่วมกัน และหวังว่าจะมีกลไกในการป้องกันและสร้างความเท่าทันในปัญหาจากการพนัน การล่อลวงเด็ก และการเล่นเกมส์จากระบบ3G

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน