นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน ให้ กฟผ. จัดทำแผนสำรองการใช้ไฟฟ้า ปี 2553 - 2558 เพื่อจัดหาไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ หลังมีการคาดการณ์ว่า การสำรองไฟฟ้าจะลดต่ำเหลือร้อยละ 9 จากการสำรองไฟฟ้าระดับเหมาะสมที่ร้อยละ 15 เนื่องจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่(ไอพีพี) จำนวน 2 โรง กำลังการผลิตรวม 2,100 เมกะวัตต์ ได้เลื่อนการออกไปอีกจากแผนเดิม จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมกรณีท่อก๊าซธรรมชาติเกิดเหตุฉุกเฉินไม่สามารถ จ่ายก๊าซได้ โดยเบื้องต้น
กฟผ.จะยืดอายุการใช้งานโรงไฟฟ้าเก่าที่จะปลดออกจากระบบตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึง ปี 2558 ออกไปก่อน และเร่งให้รับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (เอสพีพี)ให้เร็วขึ้น รวมทั้งนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) เข้ามาเสริมในระบบ และรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ขณะที่ในระยะยาวต้องพิจารณาการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงถ่านหิน และนิวเคลียร์มากขึ้น เพื่อนำมาใช้แทนก๊าซธรรมชาติที่จะหมดลงในอนาคต
โดยในอีก 5 ปีต่อจากนี้ระบบไฟฟ้าของไทยมีความเสี่ยงมาก จึงต้องควบคุมดูแลไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในระบบจ่ายไฟฟ้า โดยเฉพาะระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการส่งก๊าซฯผ่านท่อประมาณ 4,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หากส่วนนี้เกิดปัญหาถึโดยในอีก 5 ปีขั้นหยุดจ่ายก๊าซฯทั้งหมด จะทำให้กำลังการผลิตหายไปจากระบบร้อยละ 20
วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 17:09:06 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์