องค์การอนามัยโลก แนะรัฐบาลใช้มาตรการภาษีอาหาร และเครื่องดื่ม ที่เป็นบ่อเกิดโรคเรื้อรัง โดยในน้ำอัดลมมีน้ำตาลสูงกว่าค่าปกติที่กำหนดถึง 3 เท่า เชื่อการขึ้นภาษีไม่กระเทือนค่าครองชีพ ขณะเดียวกันจะทำให้ยอดการซื้ออาหารทำลายสุขภาพลดลง
ทญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์ ตัวแทนเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน เปิดเผยว่า คนไทยรับประทานน้ำตาลสูงกว่าเกณฑ์ ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึง 3 เท่า จากการศึกษาพบว่าแหล่งที่มีน้ำตาลสูง ได้แก่ เครื่องดื่มในเด็กและวัยรุ่น องค์การอนามัยโลกจึงแนะนำให้ประเทศต่างๆพิจารณาใช้มาตรการภาษีอาหาร จัดการวิกฤตโรคอ้วนและโรคเรื้อรัง ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ไขมัน โซเดียม และพลังงานสูง เนื่องจากเห็นว่าระบบภาษีเป็นหนึ่งในมาตรการที่ได้ผลและมีความคุ้มค่า และยังเป็นสิ่งที่ทำได้ ข้อมูลวิชาการจากต่างประเทศแสดงให้เห็นว่ารัฐหรือประเทศที่มีการเก็บภาษี อาหารและเครื่องดื่มพลังงงานสูงจะมีปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนน้อยกว่า และยังทำให้รัฐได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้น โดยไม่ได้เพิ่มภาระแก่ประชาชนอย่างที่อุตสาหกรรมน้ำอัดลมอ้าง
ทพ.วีระศักดิ์ พุทธาศรี สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กล่าวว่า การปรับปรุงภาษีเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ทั้งน้ำอัดลมและเครื่องดื่มอื่นๆ ควรเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินการมากที่สุดก่อนจะขยายไปหาอาหารประเภทอื่นๆ สำหรับประเทศไทยพบว่า ราคาน้ำอัดลมถูกมาก และยังหวานมากกว่าอีกหลายประเทศ ยี่ห้อที่หวานมากเป็นยี่ห้อที่ครองตลาดสูงสุดในแต่ละกลุ่ม และเชื่อว่าหากมีการขึ้นราคาน้ำอัดลมจะทำให้การบริโภคลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน.-
สำนักข่าวไทย 24/06/55