พลังงานเผยปั๊มแอลพีจีใหม่เริ่มชะลอตัว หลังรัฐจ่อลอยตัวราคาตามกลไกตลาด

กรมธุรกิจพลังงานเผยแนวโน้มการขอเปิดปั๊มแอลพีจีใหม่เริ่มชะลอตัวลง แล้วหลังรัฐส่งสัญญาณเลิกอุดหนุนราคาต่ำเพื่อรองรับการเข้าสู่ AEC ปี 2558เตือนเอกชนต้องคิดให้ดี ขณะที่ผู้ค้าแอลพีจียันไม่ขึ้นค่าขนส่งหากรัฐตรึงดีเซลไม่เกิน 30บาทต่อลิตร

นายสมนึก บำรุงสาลี รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้แนวโน้มการขออนุญาตประกอบการปั๊มแอลพีจีใหม่เริ่มลดลงแล้วเนื่องจาก รัฐบาลมีความชัดเจนที่จะปรับโครงสร้างราคาแอลพีจี(ก๊าซหุงต้ม)ให้สะท้อนกลไก ตลาดโลกเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชมคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2558ที่ถึงจุดนั้นไทยจะไม่สามารถอุดหนุนราคาพลังงานได้ต่อไปเพราะเท่ากับจะ ต้องแบกรับการอุดหนุนให้กับประเทศเพื่อนบ้านด้วยดังนั้นผู้ที่คิดที่จะเปิด ปั๊มแอลพีจีใหม่จึงต้องพิจารณาให้ดี

สำหรับจำนวนปั๊มแอลพีจีตั้งแต่ม.ค. 55 มีจำนวน 1,040 แห่ง ก.พ. 1,045 แห่ง มี.ค. 1,051 แห่ง เม.ย. 1,054 แห่งและพ.ค. 1,063 แห่งจะเห็นว่ามีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องแต่ก็เป็นอัตราการเติบโตที่เริ่ม ชะลอตัวลงหากเทียบกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาที่การเติบโตเป็นแบบก้าวกระโดด และคาดว่าแนวโน้มช่วงสิ้นปีนี้การเกิดปั๊มใหม่น่าจะมีทิศทางที่ลดลงชัดเจน ขึ้น

นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) กล่าวว่า รัฐควรจะพิจารณาปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีให้สะท้อนตลาดโลกที่เป็นราคาเดียว ไม่ควรแยกเป็นหลายราคาเพราะควบคุมยากแล้วหามาตรการดูแลผลกระทบภาคครัวเรือน แทน อย่างไรก็ตามขณะนี้สมาคมฯยังคงตรึงค่าขนส่งแอลพีจีเฉลี่ยที่ 10บาทต่อถัง(ถัง 15กิโลกรัม)เนื่องจากรัฐบาลได้ตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร

“ยอมรับว่าหากดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตรโดยเลยไป 31-32 เราเองก็คงจะต้องขอขึ้นค่าขนส่งประมาณ 5 บาทต่อถังเพราะต้นทุนหลายด้านปรับขึ้นขณะที่ค่าขนส่งเราตรึงมานานมากแล้ว ส่วนค่าแรง 300 บาทต่อวันที่รัฐบาลปรับขึ้นจากผลสำรวจพบว่า 80% จ่ายเกินอยู่แล้วเพราะงานขนส่งแอลพีจีเป็นงานหนักตรงกันข้ามเรากลับขาดแคลน แรงงานมากขึ้นเพราะเขาหันไปทำงานโรงงานกัน”นายชิษณุพงศ์กล่าว

อย่างไรก็ตามผลกระทบทางอ้อมคือการที่ค่าจ้างอื่นๆขึ้นไป 300 บาทต่อวันทำให้ผู้ประกอบการต้องจูงใจในการจ่ายเพิ่มขึ้นไปอีกเพื่อรักษาคน งานไว้เนื่องจากงานขนแอลพีจีเป็นงานหนักทำให้หาแรงงานยาก ดังนั้นผู้ประกอบการพยายามลดต้นทุนในทุกๆ ด้านโดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าอยู่ไม่ไกลจากร้านจำหน่ายก็ใช้วิธีส่งโดยการปั่น รถจักรยานแทนการขับรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ผู้ที่เป็นเจ้าของร้านเองแต่ก่อนมักจะใช้ลูกน้องดำเนินการขนส่ง เป็นหลักบางครั้งต้องลงมาช่วยหรือลงมือเองแล้ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 กรกฎาคม 2555

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน