เครือข่ายชมรมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กลุ่มเครือข่ายผู้ป่วยเรื้อรัง (Healthy Forum) และเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคประชาชน ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพชาติ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ให้พิจารณาทบทวนคำแนะนำของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อประเด็นการให้ข้อสังเกตเรื่องการรักษาพยาบาลผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.60 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายสมควร เกตุทอง รองประธานชมรมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว รองประธานกลุ่มเครือข่ายผู้ป่วยเรื้อรัง Healthy Forum พร้อมตัวแทนกลุ่มเครือข่ายผู้ป่วยเรื้อรัง และเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคประชาชน เป็นตัวแทนยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพชาติ (สปสช.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้พิจารณาทบทวนคำแนะนำของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อประเด็นการให้ข้อสังเกตเรื่องการรักษาพยาบาลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูงมาก และเป็นภาระให้งบประมาณของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่ง สตง.ให้ข้อเสนอว่าหากกำหนดแนวทางให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมจ่ายในบางส่วนตามความเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้มากขึ้น จะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายหนี้สินของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 

โดยกลุ่มตัวแทนได้ยื่นหนังสือแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวของ สตง. โดยให้ความเห็นว่าเป็นการลิดรอนสิทธิซึ่งถือเป็นการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานของกลุ่มผู้ป่วย โดยได้ร่วมกันยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้นำข้อเสนอดังกล่าวเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อให้เห็นชอบ ดังนี้

1. ยึดประโยชน์ผู้ป่วยเป็นสำคัญทำให้ผู้ป่วยมีหลักประกันที่จะไม่ถูกปฏิเสธการรักษา และจะต้องต่อรองราคายาและเวชภัณฑ์รวมถึงค่าบริการต่างๆ ให้มีราคาถูกลง และมีคุณภาพ รวมทั้งมีการดำเนินการเพื่อการส่งเสริมป้องกันให้ผู้ป่วยมีจำนวนน้อยลงอย่างเข้มข้น
2. ยึดหลักการไม่เลือกปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มิเช่นนั้นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจะเป็นผู้ป่วยเพียงกลุ่มเดียวที่ต้องร่วมจ่ายในระบบหลักประกันสุขภาพ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและเข้าไม่ถึงบริการ
3. ให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายที่ให้บริการเกินสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจำนวน 2,317,542,275 บาท โดยให้มีงบประมาณที่เพียงพอในการจัดบริการ
4. เร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดการปฏิรูป และลดความเหลื่อมล้ำระบบบริการสุขภาพทั้งสามระบบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณแผ่นดิน

ทั้งนี้ วันที่ 4 กค. 60 ทางเครือข่ายผู้ป่วยจะไปยื่นหนังสือถึง สตง.ให้ทบทวนและตรวจสอบ การให้ความเห็น ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เวลา 14.00 น.