คลื่นสัญญาณโทรศัพท์เป็นอันตรายต่อมนุษย์ โดยอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง จริงหรือ!? คำถามที่ค้างคาใจใครหลายๆ คนมาเป็นเวลานาน แม้ว่าในเวลานี้สยามประเทศจะมี 3 จีใช้ จนทำให้กลายเป็นสังคมก้มหน้าเกือบสมบูรณ์แล้วก็ตาม และจะเกิดอะไรขึ้น หากเสาสัญญาณโทรศัพท์เจ้ากรรมดันมาตั้งอยู่ใกล้บ้านเรือนมนุษย์มากเกินไป แถมยังมีที่มาที่ไป ที่ไม่ชัดเจนนักอีกด้วย! ไม่รอช้า ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปหาคำตอบในเรื่องนี้ จากทุกแง่มุม หลังได้รับร้องเรียนจากชุมชนชวนชื่นบางเขน ย่านเขตหลักสี่ ว่า มีการตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์แบบพิลึกพิลั่น จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว...
หลังได้รับการร้องเรียน ผู้สื่อข่าวทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับ นายธชอาจ พรหมพงษ์ ประธานกรรมการชุมชนชวนชื่นบางเขน ถึงที่มาที่ไปในเรื่องนี้ว่า เรื่องราวนี้ เกิดขึ้นหลังจากสมาชิกหมู่บ้านท่านหนึ่งได้ร้องเรียนเข้ามาที่กรรมการหมู่บ้าน ว่ามีการก่อสร้างเสาสัญญาณโทรศัพท์ของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง โดยไม่ได้บอกกล่าวให้ทางชุมชนทราบเรื่องมาก่อน เมื่อเข้าไปตรวจสอบจึงพบว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง จึงได้จัดทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานเขตหลักสี่ เพื่อขอระงับการก่อสร้าง พร้อมขอพูดคุยถึงรายละเอียดและตรวจสอบการได้รับอนุญาตเสียก่อน เนื่องจากเสาสัญญาณโทรศัพท์มีความสูงถึง 45 เมตร ก่อตั้งใกล้กับบ้านเรือนหลายหลังในชุมชน ทางลูกบ้านหลายท่าน เกรงว่าเสาต้นนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในชุมชน
นายธชอาจ กล่าวอ้างต่อไปว่า เมื่อทางคณะกรรมการหมู่บ้านได้ตรวจสอบอย่างจริงจัง จึงพบว่า บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด เจ้าของเสาสัญญาณดังกล่าว ยังไม่ได้รับการอนุญาตจากกรมโยธาธิการ กรุงเทพมหานคร แถมทางบริษัท ยังไม่ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนในชุมชนเสียก่อนอีกด้วย แต่กระนั้น แม้จะถูกชาวชุมชนต่อต้าน บริษัทก็ยังเมินเฉย และยังดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องต่อไป ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมจนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา จึงทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยใกล้กับเสาสัญญาณดังกล่าวเกิดความไม่พอใจ และแม้ชาวชุมชนจะพยายามติดต่อไปเพื่อให้มาหารือกับคนในชุมชนก็ได้รับการปฏิเสธ อย่างดีที่สุด ก็มีเพียงการติดต่อผ่านทางอีเมล์และโปรแกรมไลน์กับประธานกรรมการชุมชน เท่านั้น!
ชาวบ้านผวา! ประกาศขายบ้านหนี
ประธานชุมชนชวนชื่นบางเขน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เคยมีกรณีการติดตั้งเสาในลักษณะนี้มาก่อนแล้ว ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าหมู่บ้าน โดยทางชุมชนก็เคยได้รับการบอกกล่าวถึงผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดขึ้นว่า พบคนในบริเวณดังกล่าวป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังจากติดตั้งเสาสัญญาณ ประกอบกับการค้นคว้าหาข้อมูลเบื้องต้นที่สมาชิกชุมชนท่านหนึ่งได้รวบรวมมาเสนอ ซึ่งเป็นเอกสารจากนักวิชาการ งานวิจัยที่มีการระบุถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมถึงข้อกฎหมายในการก่อตั้ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางชุมชนชวนชื่นบางเขนจะยังไม่มีคนเจ็บป่วยแต่ก็ได้สร้างความรู้สึกกังวลใจให้กับลูกบ้านหลายหลังจนถึงขั้นจะประกาศขายบ้านหลังการติดตั้งเสาต้นนี้เสร็จ ส่วนผลกระทบที่สามารถเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมก็คือ เสียงรบกวนที่เกิดจากการก่อสร้าง
งัดผลประชาพิจารณ์โชว์ ชัดๆ ส่วนใหญ่คัดค้าน ขอให้ระงับการก่อสร้างทันที!
นอกจากนี้ ประธานกรรมการชุมชนชวนชื่นบางเขน ได้โชว์เอกสารที่ได้ทำประชาพิจารณ์ สอบถามความคิดเห็นชาวบ้านในชุมชนทั้ง 687 หลัง พบว่า มีบ้านที่เห็นชอบ 3 หลัง คัดค้าน 451 หลัง ซึ่งส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า เป็นห่วงเรื่องของสุขภาพ และต้องการให้ระงับการก่อตั้งเสาสัญญาณในบริเวณชุมชน เมื่อผู้สื่อข่าวทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนดังกล่าวรายหนึ่ง ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ได้พบว่าได้เริ่มก่อสร้างเสาสัญญาณ เมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคม โดยเริ่มจากการขุด เจาะ และตอกเสาเข็ม ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นเพียงการสร้างบ้านเท่านั้น แต่เกิดข้อสงสัยขึ้นว่าเหตุใดจึงมีการตอกเสาเข็มอยู่เพียงมุมเดียวเท่านั้น จึงเข้าไปสอบถามช่างก่อสร้าง กระทั่งได้รับคำตอบว่า กำลังก่อตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ โดยอ้างว่าได้บอกกล่าวกับทางหัวหน้า รปภ. ให้รับทราบแล้ว พร้อมกับอ้างว่าได้รับอนุญาตการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว จึงได้ตัดสินใจแจ้งไปยังคณะกรรมการชุมชนชวนชื่นบางเขน
สมาชิกในชุมชนรายเดิม ยังบอกเหตุผล ว่า สาเหตุที่คัดค้าน เพราะกลัวว่า เสาสัญญาณจะส่งคลื่นแล้วสร้างผลกระทบสุขภาพกับคนในชุมชน โดยมีทั้งเด็ก สตรีมีครรภ์ รวมถึงคนชรา หากมีคนป่วยก็จะยากลำบากต่อการดูแล เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่จะทำงานนอกบ้าน หากติดตั้งไประยะยาวจะก่อให้เกิดการสะสมของคลื่นในร่างกาย
"ไม่ว่าหน่วยงานใดที่จะเข้ามาดำเนินการในหมู่บ้านหรือชุมชน ควรแจ้งและสอบถามความคิดเห็นให้ทางสมาชิกหรือคณะกรรมการชุมชนทราบเรื่องเสียก่อน เพราะการกระทำเช่นนี้ส่วนตัวมองว่าไม่ต่างกับโจรที่เข้ามาบุกรุก เชื่อว่าทางบริษัทเจ้าของเสาสัญญาณดังกล่าวก็คงรู้กฎหมายเป็นอย่างดี เพียงแต่อยากลองเสี่ยงทำ เผื่อจะเป็นไปได้ด้วยดี" ชาวบ้านในชุมชนชวนชื่นบางเขนรายเดิมกล่าว
ขณะที่ ชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนอีกหลังหนึ่ง ที่เห็นด้วย ระบุว่า ส่วนตัวแล้วไม่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเสาดังกล่าว เนื่องจากบ้านของตนอยู่ไกล ส่วนที่เห็นด้วยกับการก่อสร้าง เพราะอาจจะทำให้สัญญาณมือถือค่ายดังกล่าวชัดเจนขึ้น แม้จะไม่ได้ใช้บริการค่ายดังกล่าวก็ตาม
นอกจากนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้สำรวจชุมชนข้างเคียง ก็พบเสาสัญญาณอีกค่ายหนึ่งตั้งตระหงานอยู่หน้าชุมชน ทีมข่าวฯ จึงได้เข้าพูดคุยกับเจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากเสาสัญญาณ ดังกล่าวประมาณ 300 เมตร เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ใน พื้นที่ดังกล่าว ก็มีอาการวิงเวียนศีรษะอยู่บ่อยครั้ง คลื่นไส้บ้างเป็นครั้งคราว แต่เบื้องต้นยังไม่เคยพบแพทย์เพื่อปรึกษาถึงเรื่องนี้ว่ามีความเกี่ยวข้อง กับเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ที่มาตั้งอยู่ใกล้บ้านหรือไม่ ได้แต่ใช้วิธีการแก้ปัญหาโดยการนวดศีรษะด้วยตนเอง ทำให้อาการที่เกิดขึ้นก็จะบรรเทาลงไปเองบ้าง อย่างไรก็ดี หลังจากมีการติดตั้งเสาสัญญาณขนาดใหญ่ดังกล่าวขึ้น ทำให้มีประชาชนบางส่วนที่พบเห็น ตัดสินใจที่จะไม่มาซื้อบ้านแถวนี้ เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบด้วย
เสาสัญญาณโทรศัพท์มีผลต่อสุขภาพจริงหรือ ?!
ยกงานวิจัย ยันเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งได้
เพื่อ ให้เกิดความกระจ่างในเรื่องที่ว่า เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ มีผลกระทบต่อมนุษย์จริงหรือไม่ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงติดต่อสอบถามไปยัง ดร.สุเมธ วงศ์พานิชเลิศ นักวิชาการอิสระ ผู้ซึ่งคลุกคลีศึกษาเรื่องนี้มาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ผลการวิจัยจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้คลื่นวิทยุ หรือเรียกสั้นๆ ว่า RF เป็นสารเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในคนกลุ่ม 2B คืออาจมีความเสี่ยง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าก่อให้เกิดอันตรายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถไว้วางใจได้ เนื่องจากปัจจุบันมีคลื่นเหล่านี้อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน เด็ก คนชรา หรือสตรีมีครรภ์ เมื่ออยู่ใกล้เสาสัญญาณก็ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน
ดร.สุเมธ กล่าวว่า จากงานวิจัยตั้งแต่ปี 2002 ศึกษาเรื่องเสาสัญญาณ พบว่าผลกระทบจากเสาสัญญาณนั้น คลื่นสัญญาณจะเข้าสู่ร่างกายมากกว่าศีรษะ เพราะกะโหลกค่อนข้างมีความหนา ฉะนั้นอาการที่เกิดขึ้นต่อร่างกายมนุษย์จะมีสองแบบคือ สำหรับกลุ่ม คนที่อยู่ใกล้เสาสัญญาณในระยะ 300-400 เมตร จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งสูงกว่าคนที่อยู่ห่างออกไป 3-4 เท่า อีกกลุ่มคือคนที่มีอาการแพ้คลื่น จะมีลักษณะคล้ายกับคนที่แพ้กลิ่นบุหรี่ ควันหรือสารพิษในอากาศ ซึ่งกลุ่มนี้จะมีอาการเกี่ยวกับระบบประสาท อาการเบื้องต้นที่พบ เช่น นอนไม่หลับ ปวดหัว ชักกระตุก อ่อนเพลีย หงุดหงิด ตาพร่ามัว เสียงดังในหู วิตกกังวล ความจำเสื่อม ถ้าเกิดขึ้นกับเด็กจะเป็นออทิสติก หรือสมาธิสั้น ซึ่งเรียกกลุ่มนี้ว่า กลุ่มที่ไวต่อคลื่น หรือแพ้คลื่น
นักวิชาการอิสระ กล่าวต่ออีกว่า กลุ่มคนที่อยู่ห่างจากเสาสัญญาณออกไปประมาณ 300-400 เมตร จะมีความเสี่ยงน้อยกว่ากลุ่มคนที่อยู่ใกล้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย เพียงแค่มีความเสี่ยงลดลง เนื่องจากคลื่นสัญญาณอ่อนลง โดยกลุ่มคนที่อยู่ใกล้เสาสัญญาณ จะเริ่มมีอาการตั้งแต่ติดตั้งเสาสัญญาณไปแล้ว 4-7 ปี เนื่องจากคลื่นสัญญาณจะส่งผลกระทบในระยะยาว อย่างไรก็ตาม งานวิจัยก็ยังไม่สามารถชี้ได้ชัดว่าระยะห่างจากเสาสัญญาณเท่าไร จึงจะปลอดภัย ดังนั้น ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ต่างก็มีความเสี่ยงต่อภัยที่จะเกิดขึ้น
"กลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจะมีโอกาสเสี่ยงต่อภัยอันตราย มากกว่ากลุ่มคนสุขภาพดี แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากว่าบางรายที่เจ็บป่วยบ่อยก็ไม่ได้แพ้ควันหรืออากาศ ขณะที่คนที่มีสุขภาพแข็งแรงบางรายกลับแพ้ควันหรืออากาศ ดังนั้นจึงสรุปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจะมีความเสี่ยงต่อสุขภาพง่ายกว่านั้นเป็น ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น"
แนะวิธีป้องกัน ติดอะลูมิเนียมรอบบ้านลดคลื่นสัญญาณมือถือ
นอกจากนี้ ดร.สุเมธ ยังแนะนำถึงวิธีการป้องกันและรับมือสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เสาสัญญาณ อย่างเลี่ยงไม่ได้ ให้ทีมข่าวฯ ฟังว่า หากอยู่ใกล้เสาสัญญาณโทรศัพท์ในระยะที่มองเห็นได้ชัดเจน แนะนำให้ปลูกต้นไม้ในระนาบเดียวกันกับเสา เพื่อให้ต้นไม้บังแสงอาทิตย์และให้ร่มเงาแก่บ้านแทน อีกวิธีคือ นำมุ้งลวดที่ทำด้วยอะลูมิเนียมมาติดรอบห้อง จากนั้นต่อสายลงพื้นดิน เพื่อให้คลื่นที่สะท้อนเข้ามานั้นสะท้อนกลับ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดคลื่นสัญญาณได้ และอีกวิธีคือ เอาแผ่นกันยูวีที่เป็นโลหะไปติดไว้บนฝ้าหลังคาที่สำหรับไว้กันความร้อน เนื่องจากว่าวิธีนี้จะช่วยลดคลื่นสัญญาณที่ทะลุผ่านกระเบื้องหลังคาลงมา เมื่อเจอแผ่นยูวีป้องกันจะทำให้คลื่นสัญญาณที่เข้ามาลดลงได้เช่นกัน
จี้ กสทช. เร่งควบคุมไม่ให้ใกล้แหล่งชุมชน
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องแก้ปัญหาระยะยาว โดยทาง กสทช. จะต้องเข้ามากำกับดูแลลดคลื่นสัญญาณจากเสาส่งสัญญาณ รวมถึงต้องควบคุมให้ชัดเจนว่าจะต้องไม่ตั้งใกล้กับสถานพยาบาล สถานศึกษา และสถานรับเลี้ยงเด็ก เป็นต้น
เช่นเดียวกับ ดร.กิตติ วงศ์ถาวราวัฒน์ นักวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ถึงเรื่องดังกล่าวเช่นกันว่า หาก บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ในระนาบเดียวกันกับเสา หรืออาศัยอยู่ในอาคารที่มีความสูงเทียบเท่ากับเสาสัญญาณ ได้แก่ คอนโดฯ หรือตึกสูง จะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายค่อนข้างมาก เนื่องจากได้รับคลื่นสัญญาณโดยตรง ดังนั้น ควรป้องกันโดยการติดมุ้งลวดที่เป็นโลหะ หรือฟิล์มปรอท เพื่อลดการป้องกันคลื่นสัญญาณที่จะเข้ามา เนื่องจากว่าคลื่นสัญญาณจะแพ้โลหะ ส่วนบ้านเรือนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แต่ไม่ได้สูงในระนาบเดียวกับเสาจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า หรืออาจไม่ได้รับผลกระทบเลย อย่างไรก็ตาม หากประชาชนยังคงมีความวิตกกังวลในเรื่องคลื่นสัญญาณ ให้ดำเนินการร้องเรียนหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบความอันตรายของ สัญญาณคลื่น
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์ 30 พ.ค. 2558