นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม2555 ที่ผ่านมา สำนักงานกสทช.ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอหารือไปยัง รมว.คลัง เพื่อขอสอบถามถึงเงินที่ กสทช.ได้รับจากการประมูลคลื่น3G บนความถี่ 2.1GHz ว่าจะต้องส่งมอบให้คลังทันทีเลยหรือไม่
“เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาการนำเงินส่ง กระทรวงการคลัง เป็นรายได้ของรัฐ เราจึงได้มีหนังสือขอหารือ กระทรวงการคลัง ในเรื่องดังกล่าวโดยด่วนที่สุดแล้ว เพื่อจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป” นายฐากร กล่าว
ทั้งนี้ในการเปิดประมูล เมื่อวันที่ เมื่อวันที่16 ตุลาคม 2555 ปรากฏว่าผู้เข้าประมูลทั้ง3ราย ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ จำกัด (ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิสหรือ เอไอเอส) บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด (ในเครือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค) และ บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด (ในเครือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น) เสนอราคามาที่ 41,625 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้ชำระเงินในงวดแรกไปแล้ว50% หรือรวมเป็นเงิน 22,269.3 ล้านบาท
นายฐากร เกรงว่า หาก กสทช.ไม่สามารถออกใบอนุญาตแก่ผู้ชนะการประมูลภายใน 90 วันหรือในวันที่18 มกราคม 2556 แล้ว ผู้ประกอบการจะได้รับความเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ชนะประมูลเคยออกมาให้ข่าวแล้วว่า จะทำให้เกิดความเสียหายจากอัตราดอกเบี้ยของวงเงินที่กู้มา 1,350 ล้านบาท อยู่ที่วันละ 300,000 บาทต่อราย แต่ที่ผ่านมาทั้ง3รายได้ชำระเงินงวดแรกไปแล้ว 22,269.3 ล้านบาท ความเสียหายจะรวมกันประมาณวันละ 4,948,750 บาท
“หาก กสทช.ออกใบอนุญาตล่าช้ากว่ากำหนด เชื่อว่า ผู้ประกอบการเอกชนทั้ง 3 รายจะต้องฟ้องร้องต่อ กสทช.แน่ เนื่องจากทำให้เอกชนเสียผลประโยชน์ ”นายฐากร กล่าว
ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนต่อ คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) โดยให้ตรวจสอบว่าการประมูลดัง กล่าวเข้าข่ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติ(พรบ.)ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการ เสนอราคา ต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการร้องกล่าวโทษต่อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ด้วยนั้น เชื่อว่าปัจจัยที่สามารถทำให้ต้องยกเลิก หรือเพิกถอนการประมูลครั้งนี้มีอยู่ 2ปัจจัย คือ 1.คณะกรรมการ(บอร์ด)กสทช.หรือ บอร์ดกทค. มีมติให้ยกเลิก หรือ เพิกถอนการประมูล และ 2.ศาลปกครอง มีคำสั่ง หรือวินิจฉัย ให้ยกเลิกหรือเพิกถอนการประมูล
ในวันเดียวกัน นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้ายื่นคำร้องเรียนต่อ นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอคุ้มครองประโยชน์สาธารณะกรณีการประมูลคลื่นความถี่ 2.1GHz
พร้อมนำข้อมูลการประมูลมาประกอบการพิจารณา และอยากให้ข้อร้องเรียนจบที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน
“ด้วยปรากฎว่า มีกลุ่มบางกลุ่มได้ยื่นคำร้องเรียนว่า คณะกรรมการโทรคมนาคม (กทค.) ดำเนินการประมูล 3G โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีทั้งการฮั้วประมูล มีรายได้การประมูลต่ำ และทำให้รัฐได้รับความเสียหายร้ายแรง จึงขอให้ ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา และ สอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้วเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อ ศาลปกครองกลาง เพื่อพิจารณาวินิจฉัย
นายวิชัย กล่าวว่า สมาคมฯและ สมาชิกสมาคม ในฐานะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะได้รับความเสียหายต่อผลการพิจารณาการมาให้ ข้อมูลการประมูลของ สมาคมฯก็เพื่อให้ได้ข้อยุติตรงที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน หากขั้นตอนการประมูลเกิดความล่าช้า หรือหยุดชงักนานเกินสมควร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก หรือประโยชน์สาธารณะของประเทศ
ขณะที่ นายเฉลิมศักดิ์ ผู้รับเรื่องร้องเรียน กล่าวว่า โดยหลักการแล้วอยากให้เรื่องดำเนินการไปด้วยเร็ว แต่ถ้าอะไรที่มันผิดต่อข้อกฎหมายก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย แต่ทางด้านผู้ตรวจการ เองก็ขอดูข้อมูลที่ทางผู้ร้องเรียนยื่นมาอย่างครบถ้วน
ข้อมูลจาก นสพ.แนวหน้า 6 พ.ย. 55