กสทช. ออก Must Carry ดูโอลิมปิกได้ จอไม่ดำ

บอร์ดกสท.เร่งออกร่างหลักเกณฑ์การนำพาช่องรายการโทรทัศน์ที่สามารถ รับชมได้เป็นการทั่วไป (Must Carry) เป็นการเร่งด่วน เดินหน้าประชาพิจารณ์ฉุกเฉิน 16 ก.ค.ก่อนเสนอบอร์ดกสทช.18 ก.ค. และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ด้านกสทช. 'นที' ยันโอลิมปิกจอไม่ดำแน่

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดกสท. เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ว่าเพื่อแก้ปัญหาประชาชนอาจไม่ได้รับชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเนื่องจาก ติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติร่างหลักเกณฑ์การนำพาช่องรายการโทรทัศน์ที่สามารถ รับชมได้เป็นการทั่วไป หรือ Must Carryเป็นการเร่งด่วน โดยการเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ หรือ ประชาพิจารณ์ฉุกเฉินใน 7 วัน ตามมาตรา 28 ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจาย เสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 หรือ พรบ.กสทช.ที่กำหนดให้ร่นระยะเวลาประชาพิจารณ์ให้เร็วกว่า 30 วันได้ หากเป็นกรณีเร่งด่วนฉุกเฉิน

ทั้งนี้จะนำร่างประกาศดังกล่าวเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกสทช.ในวันที่ 9 ก.ค.2555นี้ และเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในวันที่ 16 ก.ค.ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ปาร์ค จากนั้นจะนำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดกสทช.ในวันที่ 18 ก.ค. ก่อนจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ทันกับการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

'การที่กสทช.เร่งออก Must Carry โดยการเปิดประชาพิจารณ์ฉุกเฉินเพียง 7 วันนั้นก็เพื่อเป็นหลักประกันว่าประชาชนจะได้รับชมการแข่งขันโอลิมปิกโดย ปราศจากจอดำแน่นอน'

{xtypo_sticky}สำหรับรายละเอียดของร่างประกาศฉบับดังกล่าว (Must Carry) กำหนด ให้ฟรีทีวีต้องเผยแพร่สัญญาณให้รับชมได้เป็นการทั่วไป ทุกครัวเรือนในประเทศไทย ให้สามารถรับชมได้ตามผังรายการโดยมีเนื้อหาเดียวกันทุกช่องทางอย่างต่อ เนื่อง ไม่มีลักษณะปิดกั้นช่องทางการรับชมทั้งหมดหรือบางส่วน โดยไม่กำหนดเงื่อนไขในการได้รับบริการทั้งหมด ทั้งภาคพื้นดินและดาวเทียม โดยไม่รวมถึงช่องทางอินเทอร์เน็ตและช่องทาง New Mediaและไม่สามารถเก็บค่าลิขสิทธิ์เนื้อหารายการที่เผยแพร่ออกอากาศได้{/xtypo_sticky}

ขณะที่ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกจะต้องทำให้ผู้ชม รับชมฟรีทีวีได้ เช่นกัน และห้ามเปลี่ยนแปลงผังรายการ หรือ เนื้อหารายการ ซึ่งตามบทเฉพาะกาลในปัจจุบันถือว่า สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีทั้ง 6 สถานีและทรูวิชั่นส์ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต จะต้องปฏิบัติตามร่างประกาศฉบับนี้

'เราไม่สามารถระบุได้ว่า อนาคตจะไม่เกิดเหตุการณ์จอดำอีก แต่ Must Carry จะช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีมากขึ้น'

อย่างไรก็ตามแม้ก่อนหน้านี้ บอร์ดกสท.ได้รับการยืนยันจากพล.ท.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง5และประธานคณะกรรมการ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) กรณีการถ่ายทอดสดการแข่งขันโอลิมปิกปลายเดือนก.ค.นี้ว่าจะสามารถรับชมได้ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี โดยสามารถรับชมได้ทั้งแบบภาคพื้นดินและทีวีดาวเทียม เหมือนกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกทุกครั้งที่ผ่านมาโดยไม่ได้เกี่ยวโยงกับ กฎหมายลิขสิทธิ์ และจะไม่เกิดปัญหาจอดำอย่างที่หลายฝ่ายกังวลแน่นอน

พ.อ.นที กล่าวว่า บอร์ดกสท. ยังได้ผ่านร่างประกาศกสทช.เรื่องกำหนดลักษณะและประเภทของกิจการกระจายเสียง และโทรทัศน์ ใน 3 ประเภทจากทั้งหมด4ประเภท คือ1. การให้บริการโครงข่าย หรือ Network Provider 2.การให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวก หรือ Facility Provider และ 3.การให้บริการเซอร์วิส โพรวายเดอร์ หรือ ช่องรายการ เพื่อนำออกรับฟังความคิดเห็นสาธารณะซึ่งร่างดังกล่าวจะกำหนดหลักเกณฑ์และ วิธีการขอรับใบอนุญาต สิทธิและหน้าที่ของผู้รับใบอนุญาต รูปแบบการขอใบอนุญาตต่างๆ

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ผ่านร่างหลักเณฑ์การนำเข้าอุปกรณ์รับชม สัญญาณ หรือ เซ็ตท็อปบอกซ์ เพื่อมาประกอบกิจการแบบบอกรับสมาชิก หรือ เพย์ทีวี โดยคาดว่าจะประกาศใช้ได้ในเดือนก.ย.นี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการต้องนำกล่องรับสัญญาณมาขอรับอนุญาตจากกสทช.โดยไม่ทำให้ เป็นภาระต่อประชาชนเพราะคิดค่าธรรมเนียมเพียง 10 บาท ต่อกล่องเท่านั้น และในระหว่างนี้ ผู้ให้บริการรายใดที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ห้ามเก็บค่าบริการจากการรับชมจากกล่องรับสัญญาณโดยเด็ดขาด เพราะจะเข้าข่ายการให้บริการแบบเพย์ทีวี โดยในตอนนี้มีเพียงทรูวิชั่นส์เท่านั้นที่สามารถเก็บค่าบริการรับชมได้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2555

จำนวนผู้เข้าชม {hits}2376{/hits} ครั้ง

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน