ค่าไฟส่อเค้าขึ้นราคาปลายปี-พิษน้ำมันแพง

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าจากนี้จนถึงสิ้นปีคงปรับลดลงยาก เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ยังคงแบกรับภาระค่าไฟฟ้าแทนประชาชนในช่วงที่ผ่านมาคิดเป็นมูลค่าถึง 2 หมื่นล้านบาท ประกอบกับช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น จะกระทบต่อค่าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะอิงราคาน้ำมันย้อนหลัง 3-6 เดือน

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ รองผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที) ในงวดใหม่เดือนก.ย.-ธ.ค.จะเป็นอย่างไร คงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเรกูเลเตอร์ซึ่งกฟผ.มีหน้าที่ทำตามนโยบายของรัฐแต่ยอมรับว่าราคาก๊าซธรรมชาติแนวโน้มช่วงก.ย.-ธ.ค.อยู่ในระดับสูงหากกฟผ.จะรับภาระต่ออีกก็จะทำให้หนี้ค้างจ่ายในเรื่องค่าไฟเพิ่มสูงจากที่ผ่านมายังมีหนี้ค้างอยู่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทและยังไม่มีความชัดเจนว่ากฟผ.จะได้คืนเงินดังกล่าวช่วงใด

รายงานข่าวจากกฟผ. ระบุว่า ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงพ.ค.ส่งผลให้สะท้อนไปยังราคาก๊าซในช่วงปลายปีที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นมาอยู่ในระดับกว่า 240 บาทต่อล้านบีทียู จึงคาดว่าจะมีผล กระทบต่อค่าเอฟทีให้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ส่วนภาระที่กฟผ.รับไว้แทนประชาชนเพื่อไม่ให้กระทบกับการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าที่ต้องขึ้นช่วงที่ผ่านมาประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาทนั้นคิดเป็นค่าเอฟที 50 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งนโยบายที่ผ่านมาคือหากงวดใดที่ค่าไฟฟ้ามีการปรับลดก็จะใช้วิธีนำส่วนที่ควรจะลดมาคืนกฟผ.ทำให้ค่าไฟที่ประชาชนรับรู้อยู่ที่เดิมแต่หากค่าไฟงวดใหม่ขึ้นยอมรับว่าจะนำมาเกลี่ยขึ้นด้วยเรกูเลเตอร์ไม่มีนโยบายนี้เพราะจะยิ่งทำให้ค่าไฟเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นค่าไฟที่จะคืนกฟผ.คงจะต้องไปพิจารณากันอีกครั้งในปี"53

ข้อมูลจาก นสพ.มติชน 27 ก.ค.2552

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน