กรุงเทพฯ 4 เม.ย. - กฟผ. ยกให้ กกพ.พิจารณา กรณีโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีขอแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ในเรื่องของการปรับราคาค่าเชื้อเพลิงให้สามารถปรับเปลี่ยนตามราคาตลาด
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปัญหาของโรงไฟฟ้าถ่านหินบีแอลซีพี ซึ่งเป็นไอพีพีถ่านหินโรงแรกของประเทศไทยที่ประสบปัญหาต้นทุนราคา ถ่านหินในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาถ่านหินที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีระบุไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ได้กำหนดให้ใช้ราคาคงที่ตลอดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตลอด 25 ปี เฉลี่ยประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ปัจจุบันราคาถ่านหินในตลาดโลกสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาระยะยาวราคาถ่านหินในตลาดโลกประมาณ 80-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ราคาในตลาดจรจะอยู่ที่ประมาณ 100-120 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
นายอารักษ์ กล่าวว่า ผู้จัดหาถ่านหินป้อนโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี กำลังประสบปัญหาการจัดหาถ่านหิน ในราคาที่คงที่ตามสัญญาให้กับโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ซึ่งหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปจะส่งผลให้ผู้จัดหาถ่านหินอาจจะไม่สามารถจัดหา ถ่านหินให้กับบีแอลซีพีในราคาตามสัญญาได้ และหากปล่อยไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะไม่จัดส่งถ่านหินมาอีก ทำให้โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีไม่มีถ่านหินมาผลิตไฟฟ้า ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อภาพรวม ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าหายไปจากระบบ 1,400 เมกะวัตต์ ซึ่งก็จะเป็นความเสี่ยงต่อระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร และเสนอมาให้กระทรวงพลังงานพิจารณาก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณา อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีในปัจจุบันยังจ่ายไฟฟ้าตามปกติเต็มกำลังการผลิต
รายงานข่าวจากบริษัท บีแอลซีพี จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า บริษัทผู้จัดหาถ่านหินให้กับโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี คือ บริษัท ริโอปินโต้ ของประเทศออสเตรเลีย จะจัดหาถ่านหินประเภทบิทูมินัส จากแหล่งในประเทศออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย โดยโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีต้องใช้ถ่านหินประมาณวันละ 10,000 ตัน บีแอลซีพี เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เป็นการร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 50 ระหว่างบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังการผลิต 1,434 เมกะวัตต์ เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้า สำหรับหน่วยผลิตแรก 717 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2549 และหน่วยผลิตที่สอง 717 เมกะวัตต์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 อยู่ภายใต้โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (Independent Power Producer; IPP) ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2537 เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุน บทบาทของภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจการไฟฟ้า โดยได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2540 รวมระยะเวลา 25 ปี
ทางด้านนายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวถึงโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ว่า โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีได้ทำหนังสือมาถึง กฟผ.ระยะหนึ่งแล้ว เพื่อขอแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ในเรื่องของการปรับราคาค่าเชื้อเพลิง ที่มีตลอดอายุสัญญาให้สามารถปรับเปลี่ยนตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นได้บ้าง เพื่อให้ผู้จัดหาถ่านหินของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีอยู่ได้ เนื่องจากราคาถ่านหินในตลาดโลกสูงขึ้น แต่ทาง กฟผ. แจ้งว่า ในฐานะคู่สัญญาไม่สามารถที่จะแก้ไขสัญญาได้ต้องเป็นหน้าที่ของ กกพ.พิจารณา ซึ่งเรื่องนี้มองว่ามี 2 ประเด็นในการพิจารณา คือ หากไม่มีการปรับสัญญาราคาถ่านหินก็จะมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ที่จัดหาถ่าน หินให้กับโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี อาจจะทำธุรกิจต่อไปไม่ได้ต้องหยุดกิจการ ก็จะมีความเสี่ยงเรื่องการจ่ายไฟฟ้า กับอีกประเด็น คือ ปรับปรุงสัญญาราคาถ่านหิน เพื่อให้โรงไฟฟ้าอยู่ต่อไป แต่จะต้องศึกษาเรื่องกฎหมายให้ดี เพราะอาจจะมีปัญหาด้านกฎหมาย.
ข้อมุลจาก -สำนักข่าวไทย