นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรณีที่ห้างคาร์ฟูร์เตรียมขายกิจการในไทยมาเลเซียและสิงคโปร์ และมีห้างโมเดิร์นเทรดหลายรายสนใจซื้อกิจการดังกล่าวนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตาม การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้รวบรวมข้อมูล ก่อนนำเสนอให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ พิจารณาว่า การรวมกิจการดังกล่าวจะผิดกฎหมายแข่งขันทางการค้าใดหรือไม่ รวมถึงจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจค้าปลีกหรือไม่อย่างไร
เบื้องต้น ในกรณีที่ห้างเทสโก้ โลตัส สนใจที่จะซื้อกิจการ มีการตั้งข้อสังเกตว่า จะทำให้โลตัสมีอำนาจเหนือตลาดนั้น หากประเมินมูลค่าตลาดค้าปลีกค้าส่งทั้งระบบมูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งในธุรกิจประกอบด้วยโมเดิร์นเทรดและโชห่วย จำนวนหลายแสนราย เฉพาะมูลค่าของโมเดิร์นเทรดที่มีอยู่มีมูลค่าการตลาด 5 แสนล้านบาท หากการควบรวมกิจการเกิดขึ้นจริง ไม่น่าจะมีอำนาจเหนือตลาดเกิดขึ้น เพราะมีมูลค่ารวมไม่ถึงครึ่งหนึ่งของมูลค่าธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั้งระบบอยู่ แล้ว
“ต้องยอมรับว่า ถ้ามองเรื่องอำนาจเหนือตลาดไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเฉพาะโมเดิร์นเทรดรวมกันทุกรายมีมูลค่าแค่ 5 แสนล้านบาทไม่ถึงครึ่งของมูลค่าตลาดรวม แต่ถ้าเป็นเรื่องการควบรวมกิจการ คณะกรรมการแข่งขันทางการค้ายังไม่ได้เคาะเกณฑ์ควบรวมออกมา" นางวัชรี กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า พ.ร.บ.การแข่งขันการค้า พ.ศ. 2542 การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวยังมีข้อจำกัด ซึ่งกว่า 12 ปี ไม่สามารถบังคับใช้ได้เต็มที่ แม้จะได้รับการร้องเรียนอยู่เสมอว่า บางธุรกิจมีอำนาจเหนือตลาดและแข่งขันไม่เป็นธรรม ซึ่งนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ มีนโยบายปรับปรุงพัฒนากฎหมายแข่งขันการค้าให้ทันสมัย ครอบคลุมสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งยกระดับองค์กรกำกับดูแลการแข่งขันการค้า ให้เป็นหน่วยงานเทียบเท่าระดับกรม เป็นรูปแบบองค์กรอิสระเช่นเดียวกับประเทศต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงกฎหมายแข่งขันทางการค้าต่อไป
03 / 08 / 53 นสพ.กรุงเทพธุรกิจ