เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการขับเคลื่อนระบบบำนาญแห่งชาติ และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ รวมตัวกันที่โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ที่เซ็นทรัลเวิลด์ หลังจากฉายภาพยนตร์สารคดีเรื่อง บุกให้แหลก แหกตาดูโลก (where to invade next) และการเสวนาเรื่อง การจัดสวัสดิการถ้วนหน้าเป็นภาระของรัฐจริงหรือ
นางอำไพ รมยะปาน ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า การลงทะเบียนคนจนโดยอ้างว่าเพื่อจะได้มีนโยบายจัดสวัสดิการเฉพาะเจาะจงให้จะทำให้รัฐยกเลิกการจัดสวัสดิการแบบถ้วนหน้าทันที ซึ่งส่งผลกระทบต่อสวัสดิการที่มีอยู่ปัจจุบันคือ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุถ้วนหน้า ซึ่งนับว่าเป็นการแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติต่อคนจน ทั้งที่ สิทธิในการรับสวัสดิการพื้นฐานในการดำรงชีวิตเป็นสิทธิของทุกคน
ด้านนางชุลีพร ด้วงฉิม ตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภค กรุงเทพฯ กล่าวว่า การชมภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ทำให้สะท้อนใจกับผู้นำประเทศไทย ที่มุ่งแต่จะจำกัดงบประมาณด้านสวัสดิการของประชาชน ในขณะที่เมื่อได้เห็นนโยบายดีๆ ของประเทศต่างๆ ทั้งเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้า การศึกษาที่ไม่ต้องจ่ายเงินจนถึงปริญญาตรีของประเทศสโลวาเนียและฟินแลนด์ ที่รัฐจัดให้อย่างเสมอหน้ากัน ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ประกาศว่าเรียนฟรีแต่ไม่ฟรีจริง นอกนั้นในประเทศต่างๆ ยังมีการจัดสวัสดิการแรงงาน สวัสดิการสุขภาพ สวัสดิการของเด็กและผู้สูงอายุ โดยเป็นการจัดแบบถ้วนหน้า
“รัฐอย่าถามว่าทำไมเขาทำได้ แต่ควรถามตัวเองว่าทำไมเราไม่ทำให้ได้บ้าง” ตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภคกล่าว
นางอรกัลยา พุ่มพึ่ง ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เน้นย้ำว่า การมีวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศและข้าราชการในประเทศนี้เป็นสิ่งสำคัญว่าต้องการให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี หรือต้องการเพียงแต่สงเคราะห์คนจน อ้างแต่เพียงว่างบประมาณไม่พอ ทำไมจึงเอาเงินไปลงทุนในสิ่งที่น่าจะมีปัญหา เช่น รถไฟความเร็วสูง ซึ่งไม่คุ้มเลย หากดูหนังเรื่องนี้แล้วจะเห็นได้ชัดว่า คนทำหนังเน้นถึงประเทศสหรัฐอเมริกาที่ชอบบุกไปประเทศอื่นๆ ทางการทหาร ลงทุนทางอาวุธมากมายมหาศาล แต่ไม่เคยจัดสวัสดิการถ้วนหน้าให้คนในประเทศ รวมถึงการลดการตีตราคนจนในประเทศด้วย
“ประเทศอื่นๆ ในยุโรป ในทวีปอื่นเขาทำได้ เพราะผู้นำเขามีวิสัยทัศน์ นักธุรกิจของเขาก็เห็นคุณค่าของแรงงาน ประชาชนก็ยินดีจ่ายภาษีตามความสามารถครั้งเดียวจบ ไม่ต้องจ่ายซ้ำซ้อน แล้วได้รับสวัสดิการถ้วนหน้าทันที หากประเทศไทยมีการบริหารงบประมาณอย่างเห็นคุณค่าของชีวิตมนุษย์ ลดการลงทุนทางวัตถุที่ไม่จำเป็น และมีการจัดเก็บภาษีความมั่นคงให้ได้จริง ทั้งภาษีทรัพย์สิน ภาษีที่ดิน ภาษีกำไรในตลาดหุ้น แล้วนำมาจัดสวัสดิการถ้วนหน้าย่อมทำได้แน่นอน” นางอรกัลยา กล่าว
ภาพประกอบจาก Facebook กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ