บริการสุขภาพ

เครือข่ายประชาชน จ.กาฬสินธุ์ ยื่นหนังสือ ถึงนายกรัฐมนตรี ให้ยุติกระบวนการแก้ไขกฎหมายบัตรทอง

600718 news1

เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๑.๑๐ น. ที่ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ กลุ่มศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน (เครือข่ายผู้หญิง)จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้แทนเครือข่ายเยาวชนและผู้แทนเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี จ.กาฬสินธุ์ นำโดยนายทรัพย์สุริยา อุทโท ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอให้ยุติกระบวนการแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมีนายมงคล อดทน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์และหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ รับหนังสือพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ประชาชนจะเสียประโยชน์จากการแก้ไข พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พศ.๒๔๕๔ หรือกฎหมายบัตรทอง 

 นายทรัพย์สุริยา อุทโท ผู้แทนเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าวันนี้ตนเองได้รับมอบหมายจากเครือข่ายให้มายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี กรณีให้ยุติกระบวนการแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ติดตามกระบวนการแก้ไขกฎหมายเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน อีกทั้ง ๑๕ ปีที่ผ่านมาของการใช้กฎหมายดังกล่าวประชาชนได้รับประโยชน์โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ยาที่เคยมีปัญหาอุปสรรคการเข้าถึงยาเพราะราคาแพงพอ สปสช. จัดซื้อยาทำให้กลุ่มตนเข้าถึงยาสามารถลดปัญหาโรคแทรกซ้อน การเสียชีวิต เมื่อเนื้อหาการแก้ไขโดยรวมแล้วทำลายเจตนารมณ์ระบบหลักประกันสุขภาพที่คุณหมอสงวน นิตยารัมย์พงศ์ เป็นผู้บุกเบิก เช่น สัดส่วนคณะกรรมการที่เพิ่มกลุ่มผู้แทนผู้ให้บริการมากกว่าผู้แทนภาคประชาชน จะกลายเป็นคณะกรรมการของหน่วยบริการโน้มเอียงที่จะปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มตนมากกว่าประโยชน์ของประชาชน การให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้จัดซื้อยาแทน สปสช.ย่อมมองไม่เห็นหลักประกันว่ากลุ่มผู้ป่วยจะเข้าถึงยาและยาที่ใช้รักษาโรคที่พบไม่บ่อยที่เรียก กันว่ายากำพร้า ยิ่งเคยมีกรณีการทุจริตซื้อยาในกระทรวงสาธารณสุข ๑,๔๐๐ ล้านบาท ยิ่งหมดหวัง หากกระบวนการแก้ไขกฎหมายแย่ยิ่งกว่าเดิม ทางกลุ่มตนพร้อมที่จะเคลื่อนไหวอย่างถึงที่สุดเพราะเป็นเรื่องของชีวิต ย่อมเดิมพันกันด้วยชีวิต

ทางด้านนางเยาวรัตน์ ไชยหอม ผู้ทำงานกับกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าการแก้ไขกฎหมายบัตร ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบกับคนชนบทเป็นอย่างมากเพราะดูจากเนื้อหาหลักๆแล้วไม่มีหลักประกันใดๆ กับประชาชนเช่น เรื่องของการจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มว่าประชาชนจะต้องได้ร่วมจ่ายมากขึ้น เป็นภาระของประชาชนที่ต้องไปขายทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่เพื่อนำมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมถึงการขาดแคลนหมอที่จะส่งผลให้หมอย้ายเข้ามาในโรงพยาบาลใหญ่ๆหรือเมืองที่เจริญแล้ว หากแก้แล้วแย่จริงๆ ทางเครือข่ายของตนก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องสืบสานเจตนารมณ์ระบบหลักประกันสุขภาพที่คุณหมอสงวน นิตยารัมย์พงศ์ เป็นผู้ริเริ่มต่อไป
……………………………………………………………………
 นายศตคุณ คนไว : ศูนย์ข่าวผู้บริโภคภาคอีสาน รายงาน

พิมพ์ อีเมล