คาราบาวแดงเว่อร์อ้างสรรพคุณวิตามินบี12บำรุงสมอง"อย."เตรียมเชือด

อย. เตรียมดำเนินคดีเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” หลังพบโฆษณาโจ๋งครึ่ม ทั้งสื่อ นสพ. ป้ายโฆษณา และวิทยุ อ้างสรรพคุณมีวิตามินบี 12 บำรุงสมอง ซึ่งเป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมสั่งระงับโฆษณา ด้าน “เสถียร” ยัน โฆษณาไม่ได้อ้างสรรพคุณ เป็นงง อย. จะถอดโฆษณาด้วยเหตุอันใด

นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พบการโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมกาเฟอีน ตราคาราบาวแดง ในลักษณะโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์มีวิตามิน บี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทางสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง รวมทั้งป้ายโฆษณาบนถนนต่างๆ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่แสดงป้ายว่า “วิตามินบี 12 บำรุงสมอง” หรือ “คาราบาวแดง มีวิตามิน บี 12 เพิ่มความคิด เพิ่มคุณค่าชีวิต”
นอกจากนี้ยังพบการโฆษณาให้ประชาชนเขียนข้อความ “วิตามินบี 12 บำรุงสมอง” ส่งไปจับรางวัล ซึ่งการโฆษณาในทุกสื่อทั้งทางตรงทางอ้อม ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

นพ.นรังสันต์กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยมีหนังสือสั่งให้ระงับโฆษณาในสื่อทุกสื่อ และมีหนังสือเชิญพบบริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่าย เพื่อให้รับทราบการโฆษณาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะการโฆษณาดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวบำรุงสมอง

นอกจากนี้ หากบริโภคจำนวนมากอาจเป็นผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะต่อเยาวชนไทย เนื่องจากเครื่องดื่มตราคาราบาวแดงเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน ห้ามโฆษณาประโยชน์คุณภาพอาหาร เพื่อไม่ให้จูงใจให้บริโภคมาก ซึ่งถ้าบริโภคเกินวันละ 2 ขวด และบริโภคมากกว่าที่กำหนด อาจทำให้ผู้บริโภคที่มีความไวต่อกาเฟอีนได้รับอันตราย

รองเลขาธิการ อย.กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นได้ส่งหนังสือแจ้งระงับโฆษณาทางสื่อทุกสื่อไปยังผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้ดำเนินการโฆษณาแล้ว รวมทั้งดำเนินคดี ฐานโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพหรือสรรพคุณของอาหาร เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อพบมีการโฆษณาอยู่ เจ้าของผลิตภัณฑ์ต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด ฐานฝ่าฝืนคำสั่งระงับโฆษณามีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งปรับเป็นรายวัน วันละไม่น้อยกว่า 500 บาท แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และหากยังไม่ยุติจะพิจารณาเสนอคณะกรรมการอาหารในการออกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต ผลิตอาหาร

*** บาวแดงโต้-เมินเข้าพบ
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการอาหารและยา หรือ (อย.) ได้ส่งหนังสือแจ้งระงับโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง โดยกล่าวว่าเนื้อหาโฆษณามีส่วนอวดอ้างสรรพคุณ ว่าผลิตภัณฑ์มีวิตามิน บี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาท นอกจากนี้อย.ยังอ้างว่าเป็นการโฆษณาที่ไม่ได้ขออนุญาติ. ขณะนี้บริษัทยังไม่ทราบละเอียดมากนักเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น

แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ทางอย.ได้มีหนังสือเตือน สั่งให้ระงับโฆษณาในสื่อทุกสื่อ และมีหนังสือเชิญพบบริษัท คาราบาวตะวันแดง เพื่อให้รับทราบการโฆษณาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะการโฆษณาดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุญาตจากอย. แต่ที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้มีการระงับโฆษณา เนื่องจากโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง ไม่ได้โฆษณาสรรพคุณ เพียงแต่พูดถึงวิตามินบี 12 เหมือนกับเครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์ของไทยเบฟเวอเรจ ที่มีวิตามินซีเป็นส่วนผสม

นอกจากนี้ ยังมองว่าการโฆษณาดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องขออนุญาติจากทางอย. เนื่องจากไม่ได้เป็นหน่วยงานควบคุมด้านการทำโฆษณา ดังนั้นที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งและทำตามขั้นตอนตามลำดับ โดยไม่มีการเข้าพบแต่อย่างใด เพราะบริษัทยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า อย.จะให้ถอดโฆษณาด้วยเรื่องอะไร และก็ไม่จำเป็นต้องขออนุญาติโฆษณาจากทางอย.

นายเสถียร กล่าวว่า โฆษณาของเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง ไม่ได้มีเนื้อหาสื่อสารถึงสรรพคุณของสินค้า เราแค่บอกว่ามีส่วนผสมวิตามินบี 12 ก็เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์และเครื่องดื่มชูกำลังคู่แข่ง สำหรับโฆษณาดังกล่าวบริษัทได้ใช้มากว่า 1 ปี จากการปรับสโลแกน “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่” เปลี่ยนเป็น “เติมเต็มคุณค่าให้กับชีวิต”

ล่าสุดวานนี้(2กย.53) บริษัทได้ประชุมหารือเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เกี่ยวกับแนวทางการภาพยนตร์โฆษณาที่มี”แอ๊ด คาราบาว”เป็นพรีเซ็นเตอร์ กรณีว่าจะถอดโฆษณาหรือมีการปรับเนื้อหาสาระอย่างไรบ้าง จากนั้นบริษัทจะชี้แจงหรือมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแนวทาง ปฏิบัติที่ชัดเจน

.......................................................................

ที่มา:

ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กันยายน 2553 08:11 น.

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน