สหภาพยุโรป หยุดแย่งยาประชาชน

ชีวิตคนนับล้านในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งรวมถึงประเทศไทย อยู่ได้เพราะยาชื่อสามัญที่ราคาไม่แพงและเป็นธรรม แต่ชีวิตของพวกเขากำลังถูกคุกคามอย่างหนัก เพราะการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ดำเนินอยู่ระหว่างสหภาพยุโรปและอินเดีย

อ่านต่อ

พิมพ์ อีเมล

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา เตือนผู้บริโภคผลิตและใช้น้ำหมักชีวภาพอย่างปลอดภัย

นายฉลอง อัครชิโนเรศ นักวิชาการสาธารณสุข (ด้านส่งเสริมพัฒนา) ระดับเชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนนิยมบริโภคน้ำหมักชีวภาพกันมากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่ารักษาโรคต่างๆ ได้จริง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มะเร็ง ลดน้ำหนัก ขับสารพิษ เป็นต้น การใช้น้ำหมักอย่างไม่ถูกวิธีทำให้เกิดอันตรายตามมาได้ เช่น กรณีผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่นำน้ำหมักที่หมักเองมาล้างแผลทำให้ติดเชื้อ โรครุนแรง หรือผู้ป่วยบางรายนำไปหยอดรักษาโรคตาจนเกิดอาการตาอักเสบ

นอกจากนี้ การรับประทานน้ำหมักร่วมกับยาอื่น อาจส่งผลต่อยาที่ใช้ร่วมได้ เช่น น้ำหมักที่มีฤทธิ์ช่วยระบาย จะเพิ่มการบีบตัวของลำไส้ทำให้ยาดูดซึมได้น้อยลง หรือน้ำหมักซึ่งมีความเป็นกรดสูงจะทำให้ยา กลุ่มเพนิซิลลินหมดฤทธิ์ก่อนให้ผลในการรักษา

ทั้งนี้น้ำหมักชีวภาพหรือน้ำเอนไซม์ ถือเป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยนำพืช ผัก ผลไม้ ที่มีคุณประโยชน์ตามที่ต้องการ มาคัดเลือกให้ได้วัตถุดิบที่ดี นำมาผ่านกระบวนการหมัก ลักษณะของน้ำหมักที่ดีตามมาตรฐาน จะต้องไม่พบสิ่งแปลกปลอม เช่น เส้นผม ขนสัตว์ ดิน ทราย กรวด ชิ้นส่วนหรือสิ่งปฏิกูลจากสัตว์ ความเป็นกรดด่างไม่เกิน 4.3 ปริมาณเอทิลของแอลกอฮอล์และเมทิลแอลกอฮอล์ต้องไม่เกินมาตรฐานกำหนด และไม่มีการปนเปื้อนจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคได้

ดังนั้น ผู้บริโภคที่ต้องการหมักน้ำหมักเพื่อบริโภคเอง ควรศึกษาวิธีการผลิตให้เข้าใจก่อน หากต้องการซื้อมารับประทาน ควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ สถานที่ผลิตสะอาดและมีสุขลักษณะที่ดีในการผลิต ผลิตภัณฑ์ควรบรรจุในภาชนะสะอาดและปิดสนิท เพื่อความมั่นใจควรสังเกตฉลากว่าได้รับอนุญาตจาก อย.หรือไม่ และไม่หลงเชื่อโฆษณาอวดอ้างรักษาโรค หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน โรงพยาบาลทุกแห่ง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ หรือที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา โทร. 054 – 409145 - 7 ในวันเวลาราชการ
..................................................................................................................................................................

ที่มา:  ผู้สื่อข่าว : พะเยา(สวท.)   Rewriter : สุริยน ตันตราจิณ
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

วันที่ข่าว : 19 มกราคม 2555

พิมพ์ อีเมล

สธ.สระแก้ว เตือนคนไทยที่บริโภคหนูนานำเข้าจากเขมร หวั่นติดเชื่อโรค

สระแก้ว - สาธารณะสุข จังหวัดสระแก้ว เตือนคนไทยที่บริโภคหนูนา-หนูบ้านนำเข้าจากเขมร ไม่ผ่านการตรวจโรค ระวังโรคต่างๆตามมาที่มีหนูเป็นพาหะนำโรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด่านตรวจอรัญประเทศ มีซากหนูนาชำแหละส่งขายตลาดโรงเกลือที่กรรมกรกัมพูชา ส่งขายเฉลี่ยวันละ 3 ตัน ยังไม่มีหน่วยไหนตรวจสอบ ชาวบ้านหวั่นติดโรคฉี่หนูและโรคอื่นที่ตามมา แม่ค้าเผย ภาคเหนือ อีสาน และตะวันออก นิยมมาซื้อไปปรุงอาหารขายเพื่อให้ลูกค้ารับประทาน

น.พ.ยุทธพงษ์ ศรีมงคล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า หลังจากการตรวจสอบของ เจ้าหน้าที่พบว่ามีซากหนูที่อยู่ในถุงพลาสติกบางซากมีสีเขียวคล้ำ และส่งกลิ่นเหม็นแล้วปะปนเข้ามาด้วย แต่เจ้าหน้าที่ได้รวมกันหลายฝ่ายเพื่อทำการตรวจสอบกำกับดูแลส่วนกรรมกรชาว กัมพูชาจับทั้งหนูนาและนำหนูบ้านมาชำแหละนั้น ชาวบ้านกัมพูชามักนำหนูเพื่อมาขาย ซึ่งน่ากลัวว่าจะเกิดการติดเชื้อโรคจากหนูบ้านถ้าไปบริโภค ซากหนูที่ชาวกัมพูชานำเข้ามาในตลาดโรงเกลือ ยังเป็นซากสัตว์ ไม่ใช่อาหารแต่เป็นสัตว์ที่เป็นศัตรูพืช จึงยังไม่เข้า พ.ร.บ.อาหารและยาของ อย. จึงขอเตือนคนไทยที่ชอบบริโภคหนูให้ระวังหลายโรคที่มากับหนูเป็นพาหะไม่ควร บริโภคจะปลอดภัยที่สุด

ขณะที่พ่อค้าชาวไทยก็ได้มารับซื้อซากหนูนา จากตลาดโรงเกลือ ไปส่งขายตามพื้นที่ต่างๆนั้น ซึ่งพ่อค้าเหล่านั้นจะนำไปย่างขายตามข้างถนนเส้นทางหลัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ขับรถผ่านไป-มา ได้ซื้อไปรับประทาน ซึ่งผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบในตลาดโรงเกลือ ยอมรับว่าไม่รู้ว่าหนูนาหรือหนูบ้านที่ชาวกัมพูชานำมาปะปนกัน เพราะแม้แต่บ้านเราก็ยังมีการระบาดของโรคฉี่หนู และโรคอื่นที่หนูเป็นพาหะนำโรค ซึ่งอันตรายมาก

การนำหนูนาเข้ามาในฝั่งประเทศไทยนั้น จะไม่ถูกเจ้าหน้าที่ไทยตรวจสอบแต่อย่างใด ปัจจุบันคนไทยนิยมรับประทานหนูนากันมากขึ้น จนทำให้หนูนาในประเทศไทยลดน้อยลงจนแทบจะหารับประทานไม่ได้ พ่อค้าแม่ค้าคนไทยส่วนใหญ่จึงหันมาสั่งซื้อหนูนาจากประเทศกัมพูชาทางด้าน ตลาดโรงเกลือกันมากขึ้น

หนูนาที่สั่งซื้อจากประเทศกัมพูชาจะซื้อเฉพาะหนูนาที่ชำแหละและถลก หนังแล้วเท่านั้น พ่อค้าแม่ค้าคนไทยรีบนำหนูนาดังกล่าวไปประกอบเป็นอาหาร จึงไม่รู้เลยว่าจะเป็นอันตรายจากการรับประทานหนูดังกล่าว

.............................................................................................................................................................

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2555 19:47 น.

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน