ชีวิตคนนับล้านในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งรวมถึงประเทศไทย อยู่ได้เพราะยาชื่อสามัญที่ราคาไม่แพงและเป็นธรรม แต่ชีวิตของพวกเขากำลังถูกคุกคามอย่างหนัก เพราะการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ดำเนินอยู่ระหว่างสหภาพยุโรปและอินเดีย
อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตยาชื่อสามัญรายใหญ่ที่สุดในโลก ยาจำเป็นต่างๆ กว่าร้อยละ 80 ที่ใช้อยู่ในประเทศกำลังพัฒนามาจากอินเดีย โดยเฉพาะยาต้านไวร้สเอชไอวี ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่จ่ายยาจำเป็นสำหรับรักษาโรคเอดส์ โรคหัวใจ และมะเร็งให้กับผู้ป่วยนับล้านรายภายในระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทย โดยที่ยาเหล่านี้มาจากอินเดีย
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังผลักดันอย่างหนักให้มีข้อตกลงการค้าที่มีข้อผูกมัดด้านทรัพย์สินทาง ปัญญาที่เข้มงวดเกินกว่าข้อตกลงด้านทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การการค้าโลก (หรือข้อตกลงทริปส์) ข้อตกลงนี้จะสกัดกั้นการเข้าถึงยาที่จำเป็นของประชาชนในประเทศกำลังพัฒนา คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังจะปิด “ร้านขายยา” ของประเทศกำลังพัฒนา และตัดสายป่านชีวิตของผู้คนนับล้านที่ต้องอาศัยยาจำเป็นจากประเทศอินเดีย
ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปเพิกถอนมาตรการต่างๆ ต่อไปนี้ออกจากข้อตกลงที่จะทำกับรัฐบาลอินเดีย:
- การขยายอายุสิทธิบัตร ที่ทำให้การคุ้มครองสิทธิบัตรยาวนานเกินกว่า 20 ปีตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงทริปส์ขององค์การการค้าโลก
- การผูกขาดข้อมูลทางยา ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิ์หรือทำให้นำยาชื่อสามัญมาขึ้นทะเบียนยาไม่ได้หรือได้อย่างยากลำบาก
- การบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ที่บังคับให้รัฐบาลและระบบศาลของอินเดียต้องตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับ ทรัพย์สินทางปัญญาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของเจ้าของสิทธิบัตรเป็นสำคัญ มากกว่าเรื่องสาธารณสุขของประชาชน และบั่นทอนการแข่งขันของยาชื่อสามัญ
- มาตรการชายแดน ที่จะทำให้การส่งออกยาจากอินเดียไปยังประเทศกำลังพัฒนามีความยากลำบากหรือไม่อาจจะส่งออกไปได้เลย
ข้าพเจ้าเรียกร้องเพื่อประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาที่จำเป็นต้องพึ่งพายาจำ เป็นในราคาที่เป็นธรรม ขอให้คณะกรรมาธิการยุโรปเปลี่ยนท่าทีในการเจรจาและสัญญาว่าจะสนับสนุนการ เข้าถึงยาจำเป็นสำหรับประชาชนทุกคน
{gallery}action/EUHandsoffOurMedicines{/gallery}