วันนี้เรื่องเด่นประจำสัปดาห์กลับมาพบกับท่านผู้อ่านอีกครั้ง ตอนแรกคิดไว้ว่าจะเกาะติดการเมืองอีกสักสัปดาห์หนึ่ง แต่เมื่อมีการยุบสภาเกมการเมืองก็ลดอุณหภูมิลงไปบ้าง ผมคิดว่าหลายท่านคงเครียดกันมามาก ช่วงนี้เผอิญมีการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ขึ้นมาเลยขอถือโอกาสคุยกันถึงเรื่องซีเกมส์สักนิดหนึ่ง
เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้วครับ สำหรับมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคอาเซียน ซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า หลังจากมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2556 ที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงใหม่ของพม่าให้ชาวโลกได้รู้จักอย่างเป็นทางการ การเปิดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปีของพม่า หลังจากเคยจัดมาแล้ว 2 ครั้ง การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้มีความหมายมากกว่าแค่การแข่งขันกีฬา เนื่องจากประชาคมโลกต่างก็พากันจับตาดูความเป็นไปในการเปิดประเทศระดับนานาชาติอย่างเต็มตัว หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากเผด็จการทหารสู่การปกครองรัฐสภา
รัฐบาลพม่าต้องการใช้ซีเกมส์หนนี้แสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่า นี่คือพม่ายุคใหม่แตกต่างจากภาพเดิม ๆ ที่ทุกคนเคยเห็นมาในอดีต การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์หนนี้อย่าไปนึกว่าพม่าวันนี้ร่ำรวยมาจากไหน ทำไมถึงมีเงินมากมายมหาศาลจัดงานระดับชาติอย่างนี้ได้ เฉพาะพิธีเปิดก็ใช้เงินไปถึง 210 ล้านบาทแล้ว แต่ที่ทำได้เพราะพม่าใช้งบประมาณสนับสนุนจากจีน ทำไมจีนถึงให้ความช่วยเหลือพม่าเต็มกำลังถึงปานนี้ ไม่ใช่รักหรือเอ็นดูหรอกครับแต่เป็นเพราะรัฐบาลจีนกำลังจับจองพื้นที่ในพม่าหลังการเปิดประเทศ เนื่องจากพม่ามีทรัพยากรธรรมชาติเป็นตัวแปรที่น่าสนใจสำหรับมหาอำนาจของโลกอย่างยิ่ง
ขณะที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่ในขณะนี้ ทัพนักกีฬาไทยคงแข่งขันซีเกมส์ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น แต่ความหนาวเย็นมิได้เป็นอุปสรรคนักกีฬาไทยกลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ขึ้นครองเจ้าเหรียญทองอยู่ในขณะนี้ ผิดกับทางพม่าเจ้าภาพต้องอกหักกันไปทั้งประเทศ เพราะเหรียญยอดนิยมและสำคัญสำหรับพม่า คือ ฟุตบอลชายได้ตกรอบแรกอย่างพลิกความคาดหมาย ซึ่งพม่าหวังเหรียญทองเหรียญนี้เอาไว้สูงสุด ขณะที่กีฬาชนิดอื่น ๆ ก็ไม่ได้แรงอย่างที่หวังไว้ แม้เริ่มต้นจะออกตัวได้อย่างเหนือชั้น ทำเหรียญทองนำห่างเพราะได้กีฬาพื้นบ้านอย่าง ชินลง โววินัม เป็นกีฬาหลักแต่พอหมดกีฬาพวกนี้เจ้าภาพเจ้าภาพก็ยืนระยะไม่อยู่ ซึ่งขณะนี้ตกลงไปเป็นอันดับ 3 แล้ว
ส่วนฟุตบอลไทยซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมและถือเป็นเหรียญที่สำคัญที่สุดและเคยพลาดมาแล้วหลายครั้ง ในซีเกมส์หนนี้เรียกศรัทธาคืนได้อย่างเต็มตัวเพราะได้เข้าชิงชนะเลิศกับอินโดนีเซีย เราจึงต้องคอยดูว่าจะคว้าเหรียญทองมาฝากคนไทยเป็นของขวัญปีใหม่ได้หรือไม่ แต่เรื่องของกีฬาก็ประมาทหรือเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ เพราะความประมาทอาจทำให้สูญสิ้นได้ทันที เพราะฉะนั้นคนไทยจึงต้องส่งกำลังใจช่วยเชียร์ฟุตบอลไทยและนักกีฬาทีมชาติไทยในกีฬาทุกประเภท เพราะถ้าคนไทยไม่เชียร์คนไทยด้วยกันแล้ว จะให้ใครมาเชียร์เราละครับ
ใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้ปลอดภัย
เรื่องกีฬาก็คงว่ากันเพียงแค่นี้ ต่อไปเรามาหาความรู้ในเรื่องของกฎหมายกันดีกว่า ซึ่งแต่เดิมผมจะเขียนเรื่องบัตรเครดิตที่ลูกหนี้เป็นหนี้กันมาแล้ว ซึ่งบางครั้งก็แก้ไขให้หนักเป็นเบาได้ แต่บางครั้งก็อาจจะแก้ไขไม่ทันการอันทำให้ก่อเกิดความเสียหายต่อตัวของลูกหนี้รวมไปถึงทรัพย์สินของลูกหนี้ด้วย เพราะฉะนั้นในวันนี้เรามาหาทางป้องกันไม่ให้เกิดหนี้สินจะดีกว่าไหม วันนี้จึงขอเสนอในหัวข้อเรื่อง ใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้ปลอดภัย
คงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมบัตรเครดิตถึงได้นิยมกันอย่างแพร่หลาย เพราะบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อเป็นบัตรที่ใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการแทนเงินสดมีข้อดีคือผู้ถือบัตรไม่จำเป็นต้องพกเงินสดไปเป็นจำนวนมาก เสี่ยงต่อการสูญหายหรือเกิดอาชญากรรม บัตรเครดิตจะออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือ Non-Bank การมีบัตรเครดิตไม่ได้เป็นเรื่องยากของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยผู้ออกบัตรจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครบัตรเครดิต ซึ่งประกอบไปด้วย ความน่าเชื่อถือ ประวัติการใช้บริการ วินัยในการชำระหนี้ หรือข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ส่วนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดส่วนมากก็จะเป็นดังต่อไปนี้
มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน
หรือมีเงินฝากเป็นหลักประกันเต็มวงเงิน
มีเงินฝากธนาคารไม่น้อยกว่า 500,000 บาทเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ทั้งนี้การใช้บัตรเครดิตผู้บริโภคควรใช้อย่างระมัดระวังเพราะหากสูญหายหรือถูกโจรกรรมผู้บริโภคอาจจะต้องรับผิดชอบในหนี้ที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเพื่อให้สามารถใช้บัตรเครดิตได้อย่างปลอดภัย ผู้ถือบัตรจึงควรต้องทราบรายละเอียดดังต่อไปนี้
1 ลงลายมือชื่อเจ้าของบัตรทันทีที่ได้รับบัตรใหม่ และเก็บรักษาบัตรไว้ในที่ปลอดภัยอบ่างวิญญูชนควรกระทำ รวมไปถึงห้ามเขียนหรือเก็บรหัสไว้ในที่เดียวกัน
2 เมื่อรูดบัตรครั้งใดต้องอยู่ในความดูแลของผู้ถือบัตร และการรูดบัตรต้องทำเพียงครั้งเดียว เมื่อรูดเสร็จผู้ถือบัตรควรที่จะตรวจสอบหมายเลขบัตร ชื่อของผู้ถือบัตร ยอดเงินในใบเสร็จถูกต้องตามความเป็นจริงหรือไม่ก่อนที่ผู้ถือบัตรจะลงลายมือชื่อ
3 เมื่อรูดบัตรเสร็จแล้วควรตรวจสอบดูว่าเป็นบัตรของเราหรือไม่เพราะบางทีอาจจะไปสลับหรือเปลี่ยนกับบัตรใบอื่น ซึ่งจะทำให้ผู้ถือบัตรเกิดความเสียหายในภายหลัง
4 ควรเก็บใบเสร็จไว้เพื่อที่จะได้ใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบกับใบแจ้งหนี้ว่าตรงกันหรือไม่ และได้จ่ายเงินไปเป็นจำนวนเงินเท่าไรในงวดนี้ และมีเงินที่จะต้องเตรียมไว้อีกมากน้อยเพียงใดในการที่จะใช้ซื้อสินค้าต่อไป
5 ไม่ควรบอกหมายเลขบัตรเครดิตหรือข้อมูลส่วนตัวกับผู้ใดโดยเฉพาะทางโทรศัพท์
6 ถ้าบัตรเกิดสูญหายต้องรีบดำเนินการติดต่อธนาคารเพื่อขออายัดบัตรและดำเนินการแจ้งความทันทีที่สถานีตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานและเพื่อเพื่อความบริสุทธิ์ใจของผู้ถือบัตร