สวัสดีครับ........ท่านผู้อ่านทุกท่าน
เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ขับไล่จำเลยซึ่งกลายเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาออกจากที่พิพาท และได้ออกคำบังคับให้จำเลยทราบ แต่เมื่อครบกำหนดในคำบังคับ จำเลยก็ไม่ยอมออก ดังนี้ เจ้าหนี้จะต้องทำอย่างไรต่อไปเพราะอาจจะต้องใช้ที่ดินเพื่อทำการปลูกสร้าง หรือถึงวันนัดจดทะเบียนดอนขายแล้ว หากโอนไม่ได้ก็จะต้องถูกปรับเป็นเงินหลายแสนหลายล้านบาท
ทางออกอาจกระทำได้หลายทาง เช่น ยอมจ่ายค่ารื้อถอน ค่าขนย้ายให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรืออาจจะหาที่อยู่ใหม่ให้เช่าอยู่หรือยกให้ไปเลยซึ่งจะคุ้มค่ากว่ามาเสียเวลาบังคับคดีขับไล่เล่นเอาเถิดกับลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป ซึ่งอาจถือว่าได้ทำบุญโดยแท้เพราะทำให้เขามีความสุขไม่หมดหวังไปเสียทีเดียว
อีกทางหนึ่งก็คงต้องปฏิบัติไปตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยการบังคับคดีฟ้องขับไล่ โดยมีลำดับการปฏิบัติดังนี้
- เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ยื่นคำขอฝ่ายเดียว ให้ศาลมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อจัดการให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเข้าครอบครองที่พิพาทนั้น
- เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาติดตามดูว่า ศาลสั่งคำขอตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือยัง
- เมื่อศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้วเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ
- เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีทราบเช่นนั้นแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการต่อไป โดยรายงานศาลเพื่อให้มีคำสั่งจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารต่อไป
- เมื่อศาลได้รับรายงานดังกล่าวศาลย่อมมีอำนาจจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้
- กรณีศาลสั่งจับกุมหรือกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารแล้ว หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารหลบหนี เจ้าหนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจดำเนินการดังต่อไปนี้
ก. มีอำนาจมอบทรัพย์สินทั้งหมดหรือบางส่วนให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเข้าครอบครองได้ทันที
ข. ถ้ามีสิ่งของของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่หรือบุคคลใดอยู่ในอสังหาริมทรัพย์นั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจจัดการมอบให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษารักษาไว้ หรือขนย้ายไปรักษาไว้สถานที่ใด โดยให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเรียกค่าใช้จ่ายก็ได้