วันที่6 ธ.ค.56 พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) เตรียมออกหมายจับผู้บริหารช่องบลูสกาย ชาแนล ในข้อหากบฏ ร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น ยังไม่เข้าข่ายหน้าที่ของกสทช.เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้สั่งปิดสถานี โดยยังเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิจารณาไต่สวนตามกระบวนการ
ขณะ ที่ กสทช.มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาตรวจสอบเนื้อหารายการที่ออกอากาศว่ากระทำ ความผิดตาม ม.37 ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจกากระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์พ.ศ.2551หรือไม่ ส่วนขั้นตอนการพิจารณาต้องมีผู้ร้องเรียนเข้ามาก่อนจึงจะสามารถให้คณะ อนุกรรมการเนื้อหาและผังรายการพิจารณา ซึ่งใช้กระบวนการค่อนข้างนานในการหาข้อเท็จจริง สำหรับโทษนั้นหากพบการกระทำผิดจะเริ่มจากการเตือน การปรับ การพักใช้ และสูงสุดคือการเพิกถอนใบอนุญาต
“ที่ผ่านมาก สทช.ใช้ระยะเวลาการตรวจสอบค่อนข้างนาน อย่างกรณีรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ ที่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบพิจาณาจึงจะสามารถสั่งปรับได้ และย้ำว่าบทบาท กสทช.คือการตรวจสอบเนื้อหาในกรณีทีมีผู้ร้องเรียนว่าขัดต่อม.37หรือไม่” พ.อ.ดร.นที กล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางกสท.เตรียมพิจารณาวาระของศอ.รส.ที่ร้องเรียนช่องบลูสกาย และพิจารณาข้อร้องเรียนของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข(กปปส.) กรณีช่อง 9และช่อง 11 ร้องเรียนว่ามีการนำเสนอข่าวสารทางการเมืองไม่เป็นกลางและไม่มีการนำเสนอ แถลงการณ์ของกลุ่มกปปส.ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้
ข้อมูลจาก นสพ.เดลินิวส์ 6/12/56