ศาลแพ่งยกคำร้องกรณีขอคุ้มครองชั่วคราวบอลยูโรจอดำ

หลังจากที่ศาลแพ่งใช้เวลาในการพิจารณา กรณีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ในคดีที่องค์กรผู้บริโภคยื่นฟ้องสถานีโทรทัศน์ช่อง 3, 5, 9 และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด

เป็นจำเลยที่ 1-4 ในข้อหาร่วมกันละเมิดและกระทำผิดสัญญา การให้บริการสาธารณะในการแพร่ภาพและกระจายเสียง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้จำเลยที่ 1-4 ดำเนินการแพร่ภาพและกระจายเสียงรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ซึ่งในวันนี้เป็นการพิจารณาเป็นวันที่สี่แล้วนั้น ในวันนี้  ศาลฯมีคำสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ระหว่างพิจารณาของโจทก์ทั้ง 5   ส่วนคำร้องคัดค้านของจำเลยที่ 4 เ กี่ยวกับวิธีการชั่วคราวในระหว่างพิจารณา  เมื่อศาลมีคำสั่งยกคำร้องนี้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสั่งคำร้องคัดค้านของจำเลยที่ 4 อีก ให้รอการพิจารณาคดีนี้ไว้ชั่วคราว เพื่อดำเนินการตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. 2551

ศาลแพ่งมีคำสั่งยกคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเพื่อขอคุ้มครองฉุกเฉิน ในคดีหมายเลขดำ ผบ.1841/2555 กรณีที่ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาฯมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กับพวกรวม 5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริโภคใช้บริการสาธารณะฟรีทีวี และผู้ใช้ระบบเคเบิลทีวีและดาวเทียม ร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีผู้บริโภค บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสถานีโทรทัศน์ทีวีช่อง3, กองทัพบก ผู้ให้บริการสถานีโทรทัศน์ ททบ.5, บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด เป็นจำเลยที่1-4 เรื่องร่วมกันทำละเมิด และผิดสัญญา โดยขอให้ศาลไต่สวนเพื่อขอคุ้มครองฉุกเฉิน ให้จำเลยที่ 1-4 แพร่ภาพถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรโดยด่วนที่สุด ก่อนการแข่งขันจะสิ้นสุดในวันที่ 2กรกฎาคมนั้น

คำสั่งของศาลแพ่ง ระบุว่า ปัจจุบันผู้บริโภคที่รับชมส่วนใหญ่ สามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลยูโรได้ทางการส่งสัญญาณระบบภาคพื้นดินและทางเสา อากาศได้อยู่แล้ว อีกทั้งจำเลยที่ 4 (บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด) ซึ่งเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขันจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า อย่างถูกต้องตามกฎหมายซึ่งศาลไม่สามารถบังคับให้จำเลยที่ 4 ไปละเมิดสัญญาลิขสิทธิ์นั้นได้  จะส่งผลให้ยูฟ่ายกเลิกสัญญากับจำเลยที่ 4 ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนทั่วประเทศไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันนัด ชิงชนะเลิศได้ ซึ่งนับเป็นความเสียหายที่ร้ายแรงมากกว่า และอาจจส่งผลกระทบต่อการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการกีฬาอื่นๆในอนาคต และยังเป็นเรื่องสิทธิทางการค้าระหว่างประเทศ ถ้าหากศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ  29/06/55

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน