กสทช. ร่วมกรมการปกครอง ติวเข้มผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมและสื่อ ชี้ชัดกรณีจัดชิงโชคผ่าน SMS โดยมีการแบ่งรายได้จากค่าส่ง เข้าข่ายผิด พรบ. การพนัน เช่นเดียวกับการโฆษณาเว็บไซต์หรือช่องทางเล่นการพนัน แม้การจัดพนันนั้นถูกกฎหมายต่างประเทศ แต่ผิดกฎหมายไทย ส่วนการโฆษณาเชิญชวนชิงโชคผ่านสื่อต้องแจ้งรายละเอียดให้ครบตามที่กฎกระทรวงกำหนดด้วย
24 พ.ค.55 เวลา 10.00 – 12.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. มีการจัดประชุม เรื่อง แนวทางการป้องกันปัญหาที่เกี่ยวข้องต่อการพนันที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สื่อโฆษณาประเภทต่างๆ โดยมีนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ซึ่งเป็น กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิเสรีภาพของประชาชน พร้อมด้วยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และตัวแทนจากกรมการปกครอง ร่วมกันชี้แจงทำความเข้าใจกับตัวแทนผู้ประกอบการ ทั้งด้านโทรคมนาคมและด้านสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ เกี่ยวกับขอบเขตของการใช้สื่อโทรคมนาคมและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตาม พรบ. การพนัน พ.ศ. 2478 ทั้งเพื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศกีฬาปลอดพนัน รับเทศกาลแข่งขันฟุตบอลยูโรที่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้
นายบัญชา อินทรวิเศษ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการทำงานที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการต้องตกเป็นจำเลยที่ทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน เนื่องจากไม่ทราบถึงเกณฑ์ในการแบ่งแยกระหว่างการพนันกับการชิงโชค กล่าวคือ การชิงโชคนั้นผู้จัดจะต้องไม่ได้รับผลประโยชน์จากการเสี่ยงโชคของประชาชน เช่น หากใช้การส่ง sms ทายผลฟุตบอลทางโทรทัศน์ หากขออนุญาตแล้วก็สามารถทำได้ แต่ผู้จัดจะต้องไม่ได้รับผลประโยชน์จากค่าบริการเอสเอ็มเอสที่เรียกเก็บจากผู้ทายผล มิเช่นนั้นการจัดชิงโชคดังกล่าวจะเข้าข่ายเป็นการพนันทันที แม้ว่าผลประโยชน์ที่ได้รับจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ซึ่งหากเข้าข่ายเป็นการพนันก็ผิดกฎหมายทันที
“การพนันว่าผลการแข่งขันฟุตบอลใครจะแพ้-ชนะนั้นไม่สามารถอนุญาตได้ แต่หากเป็นการทายผลที่มีการให้ของรางวัลแก่ผู้ทายถูก ถือเป็นการชิงโชค กฎหมายกำหนดให้ทำได้โดยต้องขออนุญาต แต่ถ้าผู้จัดมีการรับผลประโยชน์จากการทายผลก็ถือเป็นการพนัน ซึ่งผิดกฎหมายครับ”
ผู้แทนกรมการปกครองยังระบุด้วยว่า ในการจัดชิงโชคต้องมีการยื่นขอใบอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบให้ได้ความว่า ผู้จัดไม่ได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์ แต่หากต่อไปพบว่า มีการแบ่งปันผลประโยชน์เกิดขึ้น เจ้าพนักงานก็สามารถยึดใบอนุญาตและดำเนินคดีตาม พรบ. การพนันได้ โดยมีโทษเดียวกัน ทั้งผู้ขออนุญาต ผู้โฆษณา และผู้เล่น
ด้าน กสทช. ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กล่าวเสริมว่า นอกจากเงื่อนไขเรื่องต้องขออนุญาตและไม่มีการแบ่งผลประโยชน์กันในระหว่างผู้จัดแล้ว ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมชิงโชคนั้น ยังต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวง ที่ออกตามความใน พรบ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งกำหนดให้ข้อความโฆษณาต้องมีรายละเอียดต่างๆ เช่น หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข หรือข้อกำหนดในการเสี่ยงโชคหรือการประกวดชิงรางวัล วันเวลาที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของการจัด จำนวน ลักษณะ และมูลค่าของของรางวัล เวลาและสถานที่ในการจับรางวัล เป็นต้น ทั้งนี้ ข้อกำหนดดังกล่าวมุ่งหมายเพื่อให้กิจกรรมนั้นดำเนินการอย่างโปร่งใส เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมโดยส่วนรวม
ส่วน กสทช. สุภิญญา กลางณรงค์ เปิดเผยถึงมติล่าสุดของที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บอร์ด กสท. ได้มีมติให้มีการทำหนังสือขอความร่วมมือถึงผู้ประกอบการวิทยุ โทรทัศน์ทั้งหมดให้ปฏิบัติตาม พรบ. การพนันอย่างเคร่งครัด และหากพบว่ามีการรายการใดที่เข้าข่ายทำผิดกฎหมาย กรมการปกครองสามารถแจ้งมายัง กสทช. เพื่อดำเนินการต่อไปได้ รวมถึงขอความร่วมมือเครือข่ายประชาชนเป็นตาสัปปะรดให้กับ กสทช. ด้วย หากพบว่ามีสื่อที่สนับสนุนการพนัน ขอให้แจ้งมาที่หมายเลขโทรฟรี 1200 สำหรับแนวทางระยะต่อไปอาจมีการจัดทำ Black list ที่ประชาชนและผู้บริโภคต้องร่วมมือที่จะมีมาตรการทางสังคมต่อผู้ประกอบการที่ทำผิด เช่น ไม่สนับสนุนรายการดังกล่าวเพื่อส่งเสริมมาตรการภายใต้กรอบจรรยาบรรณด้วย
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้นำสปอร์ตวิทยุของคลื่นวิทยุแห่งหนึ่งซึ่งได้รับการร้องเรียนจากเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน เพื่อหารือในที่ประชุม เนื่องจากคลื่นวิทยุแห่งนี้ได้โฆษณาเว็บไซต์sboasian.com หรือ sbobet.com อย่างโจ่มครึ้มนั้น ว่ามีความผิดหรือไม่ ซึ่งนายบัญชากล่าวว่า หากเป็นเว็บไซค์การพนัน แม้จะเป็นเว็บที่ถูกต้องของต่างประเทศ แต่หากสื่อของไทยนำมาโฆษณาก็ถือว่าเป็นผู้โฆษณาที่มีความผิดตาม พรบ.การพนัน ด้วย
ภายหลังจากการชี้แจงของตัวแทนกรมการปกครองและ กสทช. แล้ว ได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและเครือข่ายภาคประชาชนที่เข้าร่วมการประชุมซักถามและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ซึ่งผู้ประกอบการบางส่วนก็ได้รับปากที่จะให้ความร่วมมือที่จะหลีกเลี่ยงการกระทำอันเป็นการสนับสนุนให้เกิดการพนัน ขณะที่เครือข่ายหยุดการพนันกล่าวขอบคุณ กสทช. ที่ดำเนินการร่วมหยุดยั้งการพนันในสังคมไทย โดยเฉพาะการพนันบอล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก่อให้เกิดผลกระทบกับเด็กและเยาวชนในทุกฤดูกาลแข่งขัน
ทั้งนี้ การจัดประชุมของสำนักงาน กสทช. ในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อซักซ้อมความเข้าใจกับผู้ประกอบการทั้งด้านสื่อและโทรคมนาคมเพื่อลดบรรยากาศของการสื่อสารที่เป็นการกระตุ้นหรือสนับสนุนการเล่นการพนัน เพื่อทำให้เทศกาลกีฬาสำคัญระดับโลก คือฟุตบอลยูโรที่กำลังจะมาถึงเป็นบรรยากาศของการกีฬา ซึ่งมีคุณค่าในเรื่องสุขภาพ น้ำใจนักกีฬา และความสนุกสนานอย่างใสสะอาด มิใช่การมอมเมาและการสร้างปัญหาทางสังคม
สำหรับมาตรการลำดับต่อไป เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ทางสำนักงาน กสทช. จะได้มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ให้บริการทั้งด้านโทรคมนาคมและสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ ภายในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับขอบเขตของการกระทำที่ไม่ละเมิดกฎหมายและที่เหมาะสม จากนั้นหากพบว่ามีการฝ่าฝืนก็จะมีหนังสือไปถึงกรมการปกครอง เพื่อให้มีการดำเนินการตาม พรบ.การพนัน เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างป้องกันกรณีอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต